ราคาทองดิ่งลงพรวด 1,200 บาท ลดในวันเดียวแรงสุดรอบ 7 ปี

ราคาทองคำวันนี้ (10 พ.ย.63) ร่วงลงทันที 1,200 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้ โดยราคาขายออกทองรูปพรรณ อยู่ที่ 27,600 บาท ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ หรือ Gold Traders Association เมื่อ 9:27 น. ที่ผ่านมา

ขณะที่ทองคำแท่งมีราคารับซื้อในประเทศอยู่ที่บาทละ 27,000 บาท ขายออกบาทละ 27,100 บาท ตามประกาศครั้งล่าสุด

สำหรับทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่บาทละ 26,514.84 บาท ขายออกที่ราคา 27,600 บาท ขณะที่ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 1,876.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลงถึง 83.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถูกแรงขายออกมาอย่างหนัก หลังจากที่ Pfizer บริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐและ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี กล่าวว่า ข้อมูลการทดลองวัคซีนต้าน COVID-19 ระยะสุดท้ายของทางบริษัทมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันการติดเชื้อสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

Pfizer ระบุว่า จะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้าน COVID-19 ต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในช่วงสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า

ด้านบทวิเคราะห์ราคาทองคำของกลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า ราคาทองคำต่างประเทศ (Gold Spot) เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับลงแรง 90 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 7 ปี หลังจากที่มีข่าวว่าไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงว่าผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำ 10.51 ตันเมื่อวาน

การพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จเป็นประเด็นหลักที่กระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกในวันนี้ เป็นความหวังที่ผู้คนกลับไปใช้ชีวิตปกติได้และเปิดเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ทองคำถูกเทขายและตลาดหุ้นปรับขึ้นแรง อย่างไรก็ดีการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเชิงพาณิชย์ต้องใช้เวลาและน่าจะเป็นปี 2564 ซึ่งไฟเซอร์คาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1.3 พันล้านโดสในปี 2564 ส่วนการเมืองสหรัฐยังต้องติดตาม หลังจากที่โจ ไบเดนชนะการเลือกตั้งและจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 โดยให้คำมั่นว่าจะทำให้การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นไปอย่างราบรื่น

แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว ซึ่งราคาทองคำควรยืนเหนือแนวรับสำคัญ 1,850 ดอลลาร์ให้ได้ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแรงเทขายอีกรอบและจะมีแนวรับถัดไป 1,837 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,880 ดอลลาร์ และ 1,900 ดอลลาร์