แพทย์เผยอาการหญิง ถูกฉีดน้ำแยกปทุมวัน มีสารพิษในร่างกาย
อาการ ที่เกิดขึ้น กับหญิงคนนี้ ที่เธอเปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวพีพีทีวี ว่า มีอาการคลื่นไส้ เวียนศรีษะ และอาเจียนตลอดเวลา หลังจากสัมผัสกับน้ำผสมแก็สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการสลายการชุมมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณแยกปทุมวัน จนเธอตัดสินใจไปหาหมอ และต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นหลังจากนั้น 24 ชั่วโมง จากนั้นเธอได้รู้ว่า แรงฉีดของน้ำทำให้อวัยวะในร่างกายเธอช้ำ รวมถึงแพทย์ผู้รักษาบอกว่าอาการนี้เกิดจากมีสารพิษอยู่ในร่างกาย
หญิงคนนี้ยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่สัมผัสน้ำจากรถที่เจ้าหน้าที่ใช้ เธอไม่ได้ปิดหน้ากากอนามัยจึงเพราะกำลังบอกกับผู้ชุมนุมอีกคนให้ระวังตัว อาจเป็นช่วงเวลาที่เธอได้รับสารพิษนี้เข้าสู้ร่างกายโดยตรง โดยหญิงรายนี้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากเธอแล้วยังมี มีผู้ชุมนุมคนอื่นๆที่มีอาการแตกต่างกันออกไป
อาจารย์ เคมี เผยข้อมูล แก๊สน้ำตา 3 ชนิด ใช้สลายชุมนุม เน้นออกฤทธิ์ระคายเคือง
ทีมข่าวพีพีทีวี ได้สอบถามไปยัง นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ได้รับคำอธิบายว่า แก๊สน้ำตาที่ใช้นั้น มีลักษณะเป็น ผง ใช้ผสมกับน้ำ หรือใส่ในกระบอก แล้วแต่การใช้งาน โดย แก๊สน้ำตาสามารถประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันอยู่จะมีอยู่ 3 ชนิดคือ
1. CN Gas 2. CS Gas หรือ 3. กลุ่ม CR Gas โดยหากใช้เพื่อสลายการชุมนุมนั้นจะต้องผสมน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสม วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการระคายเคืองเป็นหลัก แต่หากมีคามเข้มข้น ก็จะมีฤทธิ์รุนแรง
นอกจากนี้ ยังระบุถึงการใช้สี มาเป็นส่วนผสมักษณะเดียวกับการสลายการชุมนุม ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2557 โดยระบุว่า คุณสมบัติทางเคมีของสีที่ใช้ในการสลายการชุมนุม นั้นจะเป็นสีที่ ล้างออกยาก ซักออกยาก โดยการใช้ตามหลักสากลนั้นก็ เพื่อหวังในแยกผู้ชุมนุมออกจาก ประชาชนทั่วไป
กรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมหลายคน ในลักษณะเดียวกัน ที่พบว่าแก้สน้ำตาที่ผสมอยู่ในน้ำนั้น ส่งผลกระทบมากกว่าการระคายเคืองผิวหนัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอบคำถามในประเด็นนี้ต่อสื่อมวลชนว่า สิ่งที่ใช้ในการผสมน้ำเพื่อใช้สลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคมว่า สีต่าง ๆ ที่ใช้ผสมลงไปในน้ำเป็นเพียงสีธรรมดาเท่านั้น เป็นการใช้จิตวิทยาให้ผู้ชุมนุมเกิดความกลัว และสีดังกล่าวล้างออกยากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแยกผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไปได้ โดยในหลายประเทศก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการใช้สารเคมีผสมน้ำฉีดพ่นกระจายเป็นวงกว้างนั้น สารเคมีดังกล่าว คือ แก๊สน้ำตาประเภทหนึ่ง สารผู้ที่สัมผัสจะไม่ได้รับอันตราย มีเพียงอาการแสบตาชั่วครู่และแสบระคายเคืองผิวหนังเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าไม่มีการผสมสารเคมีประเภทกรดแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า จัดให้สารเคมีดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ประจำกองร้อยควบคุมฝูงชน ซึ่งการจัดซื้อจะต้องเป็นสารเคมีที่มีมาตรฐานสากล ผ่านการทดสอบ ได้รับการยอมรับในเรื่องการควบคุมฝูงชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้จะต้องผ่านการฝึกอบรมตามที่กำหนดไว้