สถานะการเงินวิกฤต! อสมท จ่อลดพนักงาน 600 ตำแหน่ง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ สถานะการเงินวิกฤต! อสมท จ่อลดพนักงาน 600 ตำแหน่ง
นายสิโรตม์ รัตนามหัทรนะ กรรมการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัดมหาชน ส่งสารถึงพนักงาน อสมท. ลงวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เวลานี้บริษัทกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตด้านการเงินอย่างหนัก จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลงจาก 1,300 คน เหลือ 700 คน พร้อมทั้งเรียกร้องให้พนักงานประหยัดค่าใช้จ่าย โดยยืนยันว่าจะยังไม่มีการลดเงินเดือนแต่อย่างใด
โดยข้อความระบุว่าในอดีต อสมท. เคยเป็นสื่อสารมวลชนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลเห็นศักยภาพนั้น จึงแปลงสภาพจาก อ.ส.ม.ท. เป็น บมจ. อสมท ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 โดยป็นสถานีโทรทัศน์ 1 ใน 6 ช่องที่แข็งแรงและผูกขาดอุตสาหกรรมโดยไม่มีชองทีวีดาวเทียมหรีอเดบิลทีวีมาแข่งขันได้เลย จนกระทั่ง กสทช. ได้จัดสรรชองที่วีติจิตอลตามกฎหมาย
ใน พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ อสมท มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากกิจการของ อสมท ดำรงอยู่ได้ด้วยเงินจกการโฆษณาซึ่งการเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอลทำให้เม็ดเงินดังกล่าวถูกตัดแบ่งออกไปสู่ช่องทีวีรายใหม่จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทีจกเดิมประทศไทยมีสถานีโทรทัศน์ 6 ชอง กลายเป็น 28 ชองในทันที ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณายังคงอยู่เท่าเดิม แม้ กสทช ได้เคยปิดให้คืนใบอนุญาตฯ ซึ่ง อสมท ได้คืน MCOT Famiy ชอง 14 ไปเมื่อ พ.ศ. 2562 เพื่อลดสภาวะการขาดทุนอย่างถาวร อันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้บริหารในยุคนั้น
อีกทั้งภาวะที่ 2 การเกิด Digital Disruption คือ จำนวนผู้ชมโทรทัศน์และผู้ฟังวิทยุลดลงอย่างมากและต่อเนื่อง ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ถูกโยกไปสู่สื่อดิจิทัลอื่นๆ เป็นเหตุให้เกิดผลกระทบแก่อุตสาหกรรมโทรทัศน์อย่างควบคุมไม่ได้
สำหรับธุรกิจวิทยุกระจายเสียงของ อสมท โดยเพราะวิทยุคลื่น FM จำนวน 6 สถานีในกรุงเทพฯ และอีก 53 สถานีในส่วนภูมิภาค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในอดีตและปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบจากภาวะ Digital Disruption ในลักษณะเดียวกัน อสมท ได้เห็นสภาวะดังกล่ว จึงมีแนวคิดการเดินไปสูธุรกิจดิจิทัล โดยการเริ่มปรับโครงสร้างบริษัทโดยยกรุรกิจดิจิทัลขึ้นเป็นสางานใหม่
นอกจากนี้ภาวะที่ 3 ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมและเศรษฐกิของประทศ อันป็นภาวะที่ควบคุมไม่ได้และยังไม่มีจุดสิ้นสุด ส่งผลทวีคูณให้แก่ทั้ง 2 ภาวะข้างตัน กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้น ได้ประมินธุรกิจลักษณะดียวกับ อสมท ว่าจำนวนพนักงานที่เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจในอนาคตของ อสมท คือ 700 คน ในขณะที่ปัจจุบัน อสมท มีพนักงานมากถึง 1,300 กว่าคน ไม่รวมถึงลูกจ้าง โดยแนะนำให้ อสมท พิจรณาจัดโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) เพื่อปรับลดพนักงานให้เหมาะสม โดยฝ่ายบริหารแนะนำให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ควรมีเป้าหมายในการบริหารจัดการเงินที่ได้รับจากโครงการฯ อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันสถานะทางการgงินของ อสมท อยู่ในชั้นวิกฤต โดยต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในการดำเนิน โครงการ MSP โดยฝ่ายบริหารจะปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ภายหลังจากการดำเนินโครงการ MSP ในทันที
ท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าคณะกรรมการ และฝ่ายบริหารของ อสมท จะมุ่งมั่น พลิกฟื้น อสมท ให้ได้ในอนาคต แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรคที่ควบคุมไม่ได้ และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมโครการ MSP เพราะท่านคือผู้เสียสละที่จะทำให้ อสมท สามารถปรับตัวและอยู่รอดต่อไปได้และขอขอบคุณพนักงานที่ยังอยู่กับ อสมท เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรให้ผ่านพันวิกฤตนี้ไปได้
"อสมท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องขอความร่วมมือพนักงานทุกท่านปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบโดย ฝ่ายบริหารจะยังไม่มีการปรับลดเงินเดือนที่ท่านได้รับอยู่แต่อย่างใดจึงขอให้ทุกท่านปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น