รู้จัก ฐปณีย์ นักข่าวภาคสนามสายลุย ผู้ก่อตั้งสื่ออิสระ

จากกรณีที่มีการแชร์เอกสารคำสั่งของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ปรากฏข้อความว่า มีการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนทางโทรทัศน์ด้วยการนำเสนอเนื้อหารายการบางส่วน ทำให้ชาวเน็ตออกมาติดแฮชแท็ก #saveสื่อเสรี

     ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters โพสต์ข้อความระบุว่า ตรวจสอบแล้ว เป็นเอกสารจริงค่ะ ทาง กอร.ฉ.จะแถลงชี้แจงในเวลา 10.00 น.นี้ ขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นห่วงและให้กำลังใจค่ะ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ มาทางกองบรรณาธิการ ทางเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามหลักวิชาชีพสื่อ สิทธิเสรีภาพสื่อ จรรยาบรรณ จริยธรรมและกฏหมาย

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (19 ต.ค.) สำนักข่าว The Reporters ได้ออกแถลงการณ์ ที่มีเนื้อความโดยย่อว่า

การนำเสนอข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เป็นประเด็นที่เราเกาะติดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้น ทั้งในมุมของผู้ชุมนุมที่มีข้อเรียกร้องต่างๆ และในมุมของรัฐบาลที่ออกมาชี้แจง รวมถึงมุมอื่นๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้เป็นข่าวที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด

The Reporters ยังยึดมั่นในการทำหน้าที่ สื่อเพื่อสันติภาพ ด้วยความหวังว่า การเปิดพื้นที่ในการสื่อสาร จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติวิธี และเป็นแนวทางไปสู่สันติภาพที่แท้จริง

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูเส้นทางของ ฐปนีย์ และเส้นทางที่กว่าจะเป็น The Reporters ในทุกวันนี้กัน

     ฐปนีย์ เอียดศรีไชย หรือ แยม เริ่มทำงานเป็นนักข่าววิทยุที่ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นในปี 2543 ก่อนย้ายมาอยู่สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งที่นี่ทำให้เธอได้รับหน้าที่รายงานข่าวผ่านจอโทรทัศน์เป็นครั้งแรกเธอ คือการเกาะติดการชุมนุมของสมัชชาคนจนประท้วงรัฐบาลชวน หลีกภัย ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ช่อง 3

เธออยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆมากมาย รวมถึงเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปี 2557 ขณะนั้นเธอทำข่าวอยู่หน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี-รังสิต เป็นการยึดอำนาจซึ่งหน้า วินาทีที่เกิดรัฐประหารนั้น เธอรู้ทันทีว่า ตนนั้นไม่สามารถรายงานข่าวตามปกติได้ เพราะ โทรทัศน์ทุกช่องถูกเชื่อมสัญญาณเข้าโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ

แต่เธอ และเพื่อนไม่หยุดเพียงเท่านั้น ยังคงบันทึกภาพความโกลาหลหน้าสโมสรกองทัพบกที่บุคคลสำคัญต่างๆ ถูกทหารควบคุมตัวออกไป แม้ว่าโทรทัศน์ถูกปิดก็จริง แต่ Social Media ไม่สามารถปิดได้ เธอใช้ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมซึ่งอัพโหลดวีดีโอได้ครั้งละ 15 วินาที รายงานข่าวตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงค่ำมืด เพราะนี่เป็นบันทึกประวัติศาสตร์

เธอได้รับฉายาว่าเป็น "นักข่าวสาวแกร่ง" เพราะตลอดระยะเวลาการทำงานเป็นนักข่าวภาคสนามกว่า 20 ปีนั้น เธอได้พบเจอกับประสบการณ์มามากมายทั้งดี และร้าย ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะการรายงานข่าวครั้งสำคัญกรณีชะตากรรมของชาวโรฮิงญา เธอเป็นนักข่าวคนเดียวที่มีโอกาสนั่งเรือไปกับทหารในการทำข่าวนี้ ที่ทำให้เธอต้องเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่สุดในชีวิต

แน่นอนว่าชีวิตสื่อมวลชนมันไม่แน่นอน พอถึงช่วงที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เหล่าทีวีดิจิทัลก็ต้องถอนตัว ช่อง 3 ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่คืนช่อง จาก 3 ช่อง เหลือแค่เพียง 1 ช่องเท่านั้น มีพนักงานมากมายถูกเลิกจ้าง ซึ่งตอนนี้เธอเป็นนักข่าวในบริษัทของ กิตติ สิงหาปัด ที่ผลิตรายการข่าว 3 มิติ ให้กับช่อง 3 เท่านั้น

ด้วยที่ ฐปนีย์ อยากทำข่าวที่มีความอิสระ ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งการทำงานในโครงสร้างเดิมนั้นมีความล่าช้า จึงได้ลาออกจากการเป็นนักข่าวประจำรายการ "ข่าวสามมิติ" มาผันตัวเป็น "นักข่าวฟรีแลนซ์" และฟอร์มทีมทำเพจข่าวออนไลน์อย่าง The Reporters ร่วมกับเพื่อนนักข่าวภาคสนามหลายคน

โดยมุ่งหวังให้มีพื้นที่รายงานข่าวอย่างอิสระ และหวังว่าที่แห่งนี้จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของนักข่าวภาคสนาม ซึ่งการทำงานข่าวก็ต้องใช้เงิน ทั้งยังต้องดูแลครอบครัวควบคู่ไปด้วยอีก ก่อนจะเกิดไอเดียว่าครอบครัวของตนมีจุดเด่นตรงที่ทำอาหารอร่อย จึงได้เริ่มต้นทำร้านอาหารใต้อย่างร้าน "บ้านพี่แยม" ขึ้นมาเพื่อเป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากงานข่าว โดยมีน้องชายเป็นพ่อครัวหลัก ทำหน้าที่ในการคิดค้นสูตรต่างๆขึ้นมา

แน่นอนว่าเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ฐปนีย์ และทีมข่าว The Reporters ก็ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ และรายงานข่าวด้วยเช่นกัน โดยที่เธออยู่บริเวณจุดปะทะที่ฉีดน้ำแบบแนวหน้า แม้จะเปียก และโดนน้ำที่ผสมสารเคมีเข้าตาก็ยังคงทำหน้าที่อย่างไม่ลดละ ตามรายงานข่าวจนจบการชุมนุม

ถือได้ว่า ฐปณีย์ เอียดศรีไชย เป็นอีกหนึ่งคนสำคัญในวงการนักข่าวภาคสนามเลยทีเดียว ด้วยคาแรคเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นนักข่าวสายลุย ไม่หวั่นแม้เจอศึกหนักมามากมาย บุกป่า ฝ่าดง ลงเรือก็ทำมาหมดแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนที่รัก และชื่นชมเธอมากมาย พูดว่าเลยว่าอะไรก็หยุดเธอคนนี้ไม่ได้แล้ว

ค่ะ คุณกิตติคะ!