จับตา สารสาสน์ ในมือทายาทรุ่น 2 ฟื้นความเชื่อมั่นกลับมา


จับตา สารสาสน์ ในมือทายาทรุ่น 2 ฟื้นความเชื่อมั่นกลับมา

หลังจากมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ครู โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายเด็กเผยแพร่ออกมาสู่สังคม ผู้ปกครองได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้บริหารรับผิดชอบจนต่อมานางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เข้ามาดำเนินการและเป็นประธานในการหารือข้อสรุปถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และล่าสุดผู้บริหารได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบแล้วพร้อมรับปากจะแก้ไขทุกเรื่องพร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และผู้บริหารซึ่งเป็นทายาทของนายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ คือ นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน และนายสุทธิพงศ์ ยงค์กมล ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบและพร้อมแก้ไขปัญหาทุกอย่าง

ทั้งนี้ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งในโรงเรียนสาขาของเครือโรงเรียนสารสาสน์ (Sarasas Affliated Schools) มีจดทะเบียนกว่า 100 ล้านบาท ดำเนินการภายใต้บริษัท แสงเงินพัฒนาการ จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2524 มีผู้ถือหุ้น 7 ราย ทั้งนี้ปัจจุบันเครือโรงเรียนสารสาสน์

มีโรงเรียนรวมทั้งหมด 49 แห่ง ทั้งที่เป็นโรงเรียนสามัญและโรงเรียนอาชีวศึกษา โดยผู้ก่อตั้งและได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและเจ้าของเครือโรงเรียนสารสาสน์คือ นายพิบูลย์ ยงค์กมล และนางเพ็ญศรี ยงค์กมล และมีนายพิบูลย์ ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการโรงเรียนเครือสารสาสน์ โดยที่ผ่านมา ทายาททั้ง 2 ของผู้ก่อตั้งและเจ้าของโรงเรียนสารสาสน์ยังไม่เป็นที่รู้จักของสังคม แต่เชื่อว่าหลังจากที่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย.63 ผู้บริหารทั้ง 2 ได้เปิดตัวในการแถลงข่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานั้น เชื่อว่าจากนี้ไปน่าจะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

ทั้งนี้สำหรับ “พิสุทธิ์ และสุทธิพงศ์ ยงค์กมล” ทายาททั้ง 2 ของผู้ก่อตั้งและเจ้าของโรงเรียนสารสาสน์ได้ออกมาแถลงข่าว พร้อมแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยนายพิสุทธิ์ ผู้แทนผู้รับใบอนุญาติ ได้ชี้แจงว่า เจตนาของผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ตลอดเวลา เกือบ 50 ปี ได้ยึดมั่นในความเป็นสถาบันการศึกษา เพราะเป็นครูมาก่อน แต่ยอมรับว่าเมื่อดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนั้นความรู้สึกเหมือนผู้ปกครองทุกคนที่รู้สึกเจ็บที่หัวใจ เพราะมีลูกเหมือนกัน และพร้อมรับผิดชอบ และแก้ไขในเรื่องที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้สำหรับพิสุทธิ์ จบมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญและจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ผลการสอบโทเฟล ไอเอลฟ์ ผ่านในระดับคะแนนค่อนข้างดี ขณะที่สุทธิพงศ์ จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรีและปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจากนั้นไปทั้งคู่ไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย

และหลังจากเรียนจบก็ได้เริ่มโครงการทดลองหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มีครูต่างชาติเป็นผู้สอน เรียกว่า "เอ็กซ์ตร้า" (Extra) ในชั้นอนุบาลและประถม 1 ที่โรงเรียน สารสาสน์พิทยา ประมาณปี 2535 โดยคัดเลือกเด็กนักเรียนที่มีคะแนนสูงสุดอันดับที่ 1-5 จากแต่ละห้องมารวมอยู่ในห้องเอ็กซ์ตร้า เพราะต้องการเด็กคล่องแคล่ว เรียนรู้เร็ว ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายเพียง2,000 บาท มีอาจารย์ต่างชาติชาวออสเตรเลียมาสอน ผ่านไปได้ 1 ปีได้รับความนิยมจึงเปิดหลักสูตรเอ็กซ์ตร้า ตั้งแต่อนุบาลถึงชั้น ป.6 ต่อมาขยายห้องเรียนมาใช้พื้นที่โรงเรียนสารสาสน์โปลีเทคนิคถนนสาธุประดิษฐ์

เปิดโรงเรียนสอนเฉพาะหลักสูตรเอ็กซ์ตร้า ชื่อ สารสาสน์เอกตรา จนปัจจุบันมีทั้งหมด 49 สาขา มีนักเรียนในเครือทั้งหมด 91,500 คน ส่วนค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับอนุบาลนั้นอนุบาล1 (ปกติ)ภาคเรียนแรก 22,500 บาทภาคเรียนที่ 2 ประมาณ18,500 แต่ถ้าเป็นโปรแกรม IEP ซึ่งมีตั้งแต่อนุบาล 2 นั้นภาคเรียนแรก 61,000 บาท ภาคเรียนที่ 2 ประมาณ 53,000บาท


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:19 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์