เผยเครือ รร.สารสาส์ ถูกร้องเรียนอื้อ 34 แห่งจาก 45 แห่ง เจอปัญหาเพียบ!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เผยเครือ รร.สารสาส์ ถูกร้องเรียนอื้อ 34 แห่งจาก 45 แห่ง เจอปัญหาเพียบ!
28ก.ย.63- นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือการแก้ปัญหาผู้ปกครองร้องเรียน กรณีที่เจ้าหน้าที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายนักเรียน ว่า จากการรับฟังปัญหาที่เกิดจากโรงเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งโรงเรียนยอมรับผิดทุกอย่าง และขณะนี้ผู้ปกครองรู้สึกพอใจระดับหนึ่ง โดยตนได้สั่งการให้คณะทำงานของตนเข้าไปช่วยประสานการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเยียวยา หรือการดำเนินคดีต่างๆ ซึ่งทางโรงเรียนพร้อมจะเยียวยาผู้ปกครองและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ส่วนมาตรการป้องกันและการวางแนวทางการรับผู้ช่วยครูเด็กเล็กของโรงเรียนเอกชนนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีมาตรการอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีพอ
ศธ.พร้อมปรับปรุงแก้ไขให้มีมาตรฐานต่อไป ขณะที่ครูต่างชาติที่สอนภาษาต่างประเทศมีการทำร้ายเด็กด้วยนั้น เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป เช่น ว่าเดินทางเข้าเมืองถูกต้องหรือไม่ และมีใบอนุญาตประกอบการสอนสำหรับครูต่างชาติหรือไม่ เป็นต้น ดังนั้นหากครูต่างชาติทำผิดจริงจะประสานสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้ดำเนินความผิดต่อไป ทั้งนี้มีเด็กเล็กในโรงเรียนดังกล่าวถูกกระทำเกินกว่าเหตุจำนวนเท่าไหร่นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน
2.การดำเนินการทางคดีที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งไม่ได้เป็นครู เป็นเพียงพี่เลี้ยงเด็กเท่านั้น และทางโรงเรียนได้ให้ออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่แล้ว
3.สำหรับผู้ที่กระทำผิดคนอื่นๆ ทางโรงเรียนได้ให้ออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้มีการลงโทษและตักเตือนผู้ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ด้วย อีกทั้งโรงเรียนจะต้องปรับการบริหารจัดการโรงเรียนใหม่ ทั้งเรื่องงานวิชาการและงานบริหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารกลางวัน การเก็บค่าเล่าเรียน การรับครู ทางโรงเรียนจะต้องออกเป็นมาตรการเพื่อชี้แจ้งกับครู และผู้ปกครองเด็ก
ด้าน นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า สช.ได้กำชับโรงเรียนว่ากล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอไปถือเป็นพยานวัตถุที่สามารถนำสืบทางคดีได้ ดังนั้นโรงเรียนห้ามทำลายหรือลบคลิปวิดีโอออกอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะมีความผิด ซึ่งต่อจากนี้ไปขอย้ำว่าครูเป็นวิชาชีพที่ถูกควบคุม ดังนั้นผู้ที่เข้าไปอยู่ในโรงเรียนเอกชนได้ต้องอาศัยหนังสืออนุญาตจากคุรุสภา คือ ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหากใครไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพชั่วคราว 2 ปี รวมถึงหากมีนักศึกษาครูฝึกงานจะต้องมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนชั่วคราวระหว่างที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตัวจริง ดังนั้นหากตรวจพบว่าโรงเรียนแห่งนี้ปล่อยให้ครูที่ไม่มีอนุญาตฯมาสอนผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเอกชนจะมีความผิดทางอาญาต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปีและปรับไม่เงินไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจากนี้ไป สช.จะออกแนวปฏิบัติให้โรงเรียนเอกชนทั่วประเทศต้องแสดงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูพร้อมเลขที่วันหมดอายุเปิดเผยอย่างสาธารณะ และแขวนไว้บนเว็บไซต์ของโรงเรียนด้วย รวมถึงติดแจ้งแสดงไว้หน้าห้องเรียนแต่ละชั้นเรียนด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่า โรงเรียนมีความผิดจนต้องถูกปิดโรงเรียนหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ถือว่าโรงเรียนเข้าข่ายกระทำความผิดแต่ด้วยกฎระเบียบโรงเรียนเอกชนมีการกำหนดระยะเวลาให้แก้ไขตั้งแต่ระยะเวลา 15 วันไปจนถึง 1 เดือน ซึ่งหากโรงเรียนแก้ไขไม่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดก็จะมีบทลงโทษต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น