รธน.ใหม่ไม่เอื้อพรรคเล็ก เสธ.หนั่นยกข้ออ้างซบชท.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคชาติไทย ว่า
 
เมื่อเวลา 10.45 น. วันนี้ (29 ต.ค.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน พร้อมด้วยลูกพรรค อาทิ นายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรค นายอัศวิน วิภูศิริ เลขาธิการพรรค นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ พล.ต.อ.ประสาน วงศ์ใหญ่ กรรมการบริหารพรรคและคณะ รวม 15 คน ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมแกนนำพรรคคอยให้การต้อนรับ และมีป้ายผ้าที่เขียนว่า “พรรคชาติไทยขอต้อนรับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และคณะด้วยความยินดียิ่ง” ด้วย

  ทั้งนี้ เมื่อ พล.ต.สนั่น เดินทางมาถึงพรรคชาติไทย

ก็โผเข้ากอดกับนายบรรหาร และมีการสลับกันหอมแก้ม ก่อนจะให้ลูกพรรคกรอกใบสมัครและส่งมอบให้กับนายบรรหาร ซึ่งนายบรรหาร ก็ได้ส่งมอบบัตรสมาชิกพรรคชาติไทย และเสื้อคลุมพรรคชาติไทย ให้กับสมาชิกใหม่ได้สวมใส่ทั้ง 15 คนด้วย

พล.ต.สนั่น กล่าวว่า
 
เต็มใจและตั้งใจว่า จะมาร่วมงานทางการเมืองกับพี่ชาย ซึ่งเคยร่วมงานการเมืองกันมากว่า 30 ปี แม้บางครั้งจะต่างพรรคต่างตำแหน่ง แต่ตนกับนายบรรหารไม่เคยมีความขัดแย้งกัน และนายบรรหารก็เป็นคนที่รักษาคำพูด อีกทั้งเป็นบุคคลที่ตนเคารพทางการเมืองมากกว่าบุคคลอื่น ประกอบกับเมื่อมีเหตุการณ์รัฐประหาร รัฐธรรมนูญที่ออกมาใหม่ไม่เอื้อกับพรรคเล็ก จึงต้องตัดสินใจทางการเมือง “หลังจากที่มีการยึดอำนาจแล้ว ผมตั้งใจว่าจะทำพรรคมหาชนให้อยู่ให้ได้ เมื่อรัฐธรรมนูญร่างเสร็จออกมาประกาศใช้ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว จนกระทั่งระเบียบของ กกต.ออกมา ผมเห็นว่า ถ้าเราอยู่อย่างพรรคเล็ก ๆ คงไปไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง เพราะรัฐธรรมนูญไม่เอื้ออำนวยให้กับพรรคเล็กเลย ระบบสัดส่วน เมื่อก่อนใช้คะแนนแค่ 5% แต่วันนี้กลายเป็น 10% เมื่อพรรคมหาชนไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ทั่วประเทศ ก็ไม่มีโอกาสได้ ส.ส.สัดส่วนแม้แต่เขตเดียว” พล.ต.สนั่น กล่าว และฝากถึงนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้คิดถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเองให้ดี ว่าจะย้ายไปอยู่พรรคไหน โดยขอให้คำนึงถึงศักดิ์ศรี และว่า “ผมอยากให้มาอยู่ด้วยกันที่พรรคชาติไทย เพื่อให้มีผู้อาวุโสมาอยู่ร่วมกันในพรรค 3 คน” 

ด้านนายบรรหาร กล่าวว่า

พรรคชาติไทยและสมาชิกมีความยินดีที่ พล.ต.สนั่น ย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย เพราะตนกับพล.ต.สนั่น มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น มากกว่าหลายคนที่อยู่ในการเมืองขณะนี้ ตนเคยทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมี พล.ต.สนั่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ และความสัมพันธ์ตรงนั้นยืนยาวมาถึง 40 ปี แม้อยู่คนละพรรค แต่ความสัมพันธ์ก็ยังไม่เสื่อมคลาย ยังจับมือกันทำงานและมีสัญญาใจว่า พรรคชาติไทยไปไหน พรรคมหาชนต้องอยู่ด้วย ไม่ว่าจะลงน้ำ ลุยโคลน ก็ต้องไปด้วยกัน  

ในช่วงหลังได้ข่าวว่า

พล.ต.สนั่น ต้องการนำสมาชิกพรรคไปรวม หรือช่วยงานพรรคอื่น ผมจึงได้ประสานไปว่า หากเป็นไปได้ ขอให้มาช่วยกัน เพราะผมอายุมากแล้ว ขณะนี้ก็ 75 ปี ในอนาคตผมต้องพิจารณาตัวเอง ดังนั้น หาก พล.ต.สนั่น มาช่วยกันกอบกู้จะเป็นการดี เพราะบุคลากรในพรรคมหาชนก็มีมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้มีการพูดจากัน และขอยืนยันว่า การมารวมกันครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไข มารวมกันด้วยใจรัก ดังนั้น กระแสข่าวย้ายพรรคต่าง ๆ ตอนนี้ถือว่ายุติแล้ว” นายบรรหาร กล่าว 

พล.ต.สนั่น  กล่าวอีกว่า 

การมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยครั้งนี้ ไม่ได้หวังตำแหน่งหรือมีเงื่อนไขในความร่วมมือใด ๆ มีแต่ความตั้งใจจะร่วมทำงานใหญ่กับพรรคชาติไทย เพราะได้ตัดสินใจแล้วว่า พรรคเล็กคงอยู่ไม่ได้ ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ