วีระ ร้องดีเอสไอตรวจสอบโฉนดที่ดิน ศรีพันวา

"วีระ สมความคิด" ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบที่มาการออกโฉนดที่ดินของพื้นที่ปลูกสร้าง "โรงแรมศรีพันวา" ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ชี้ผิดปกติเพราะในอดีตชาวบ้านที่อยู่มาก่อนเคยขอออกแล้วแต่เจ้าหน้าที่แจ้งไม่สามารถออกได้

วันนี้ (25 ก.ย.63) นายวีระ สมความคิด เข้าร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบการได้มาของโฉนดที่ดินศรีพันวาว่า

 เป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีเอกสาร น.ส.3 ก หลายแปลงและโฉนดที่ดิน 2 แปลง รวมถึงให้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ด้วยหรือไม่ โดยนำเอกสารหลักฐานเป็นสำเนาภาพถ่ายอาคารที่พักของโครงการศรีพันวา เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายธวัชชัย อนุกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน 7 ฝ่ายทะเบียนสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต จำนวน 167 แผ่น และสำเนาภาพถ่าย 2 แผ่นมามอบให้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาตรวจสอบด้วย ซึ่งพบว่า มีเอกสาร น.ส.3 ก หลายแปลง และโฉนดที่ดิน 2 แปลง

นายวีระ เปิดเผยว่า จากการสืบค้นข้อมูลพบว่าในอดีตที่ดินดังกล่าว มีชาวบ้านผู้อาศัยอยู่ก่อนเคยเข้าขอออกเอกสารสิทธิ์กับกรมที่ดินแต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถออกให้ได้แต่ภายหลังที่มีนายมุนเข้าไปถึงพื้นที่ติดต่อซื้อจากชาวบ้านกลับสามารถออกโฉนดที่ดินให้ได้จึงสงสัยว่า กระบวนการออกเอกสารสิทธิ์นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

อีกประเด็น คือ ที่ดินดังกล่าวอาจจะมีความเกี่ยวกับคดีอาญาที่เคยดำเนินคดีกับนายธวัชชัย อดีตเจ้าพนักงานที่ดินซึ่งเสียชีวิตที่ดีเอสไอเมื่อหลายปีก่อนจึงนำเอกสารคดีความของนายธวัชชัย มามอบให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบเทียบเคียง

ขณะที่ภาพถ่ายทางอากาศที่นายวีระ มอบให้ดีเอสไอนั้น นายวีระ ระบุ ว่า

 ภาพปรากฏที่ตั้งของโรงแรมศรีพันวามีการก่อสร้างบนพื้นที่ลาดชันเกินกว่าร้อยละ 35 หรือ เท่ากับมากกว่า 19.2 องศา การก่อสร้างอาคารที่พักในลักษณะดังกล่าวไม่น่าจะกระทำได้ เนื่องจากขัดกับกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ตาม พระราชบัญญัติกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า

หลังรับเอกสารหลักฐานจากนายวีระพนักงานสอบสวนต้องศึกษาข้อมูลก่อนเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบโรงแรมศรีพันวา โดยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้

พร้อมยอมรับว่า ที่ดินที่มีการอยู่อาศัยหรือเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ครอบครองมานานกว่า 40 ปี อาจจะมีอุปสรรคเรื่องเอกสารพิสูจน์ทราบการเปลี่ยนมือผู้ถือครอง แต่ยืนยัน เจ้าหน้าที่มีกระบวนสืบค้น ตรวจสอบให้ได้ข้อมูลมาประกอบการพิจารณตรวจสอบแน่นอน