ศาลยกฟ้อง อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา พ้นคดีฟอกเงิน
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าเรื่องการขออนุมัติงบฯ ศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น ไม่ใช่เฉพาะวัดที่มีโรงเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสามพระยามีโรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ย่อมมีสิทธิ์ในการใช้งบฯ ดังกล่าว อีกทั้งจำเลยทั้งสอง เป็นบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ.) และไม่มีหลักฐานว่าจำเลยทราบว่าเงินที่ได้รับเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ในหนังสือระบุว่าได้รับเงินเกี่ยวกับการบูรณะปฏิสังขรณ์ แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจว่าเป็นงบฯ บูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อได้รับงบฯ 5 ล้านบาท จึงมอบอำนาจให้ถอนเงิน นำมาจ่ายเป็นค่าก่อสร้างอาคารร่มธรรม โดยวัดมีการก่อสร้างอาคารและโอนเงินชำระหนี้จริง เชื่อได้ว่าจำเลยในฐานะผู้ดูแลวัดได้นำเงินไปทำนุบำรุงวัด
แม้วัดสามพระยาจะไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม และไม่ได้นำเงินไปใช้โดยตรง ก็ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนทรัพย์สินที่เป็นการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย โดยเห็นว่าจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน พิพากษาแก้เป็นยกฟ้อง
ทางด้านทนายความ เปิดเผยว่าเมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง อดีตพระทั้งสองเตรียมขอกลับเข้าสู่สมณเพศอีกครั้ง โดยที่ผ่านมาทั้งสองยังคงปฏิบัติตนเสมือนตอนที่ยังเป็นพระ