ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 3 ราย เพิ่งเดินทางมาจากไทย - สธ.เร่งติดตาม
จากการตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้น พบว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีกรณีผู้เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 5 เหตุการณ์ โดย 2 เหตุการณ์ ที่เคยรายงานไปแล้ว คือ เหตุการณ์ชายไทยอายุ 24 ปี และเหตุการณ์ชายญี่ปุ่นอายุ 47 ปี
และล่าสุดพบเพิ่มอีก 3 เหตุการณ์ ดังนี้
รายที่ 1 เป็นเพศชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 64 ปี (เป็นรายที่ 730 ของญี่ปุ่น) อาชีพผู้จัดการทั่วไป บริษัทแห่งหนึ่งในเขตบางนา เดินทางเข้าประเทศไทยและพักที่คอนโดย่านสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 59 เดินทางไปต่างประเทศครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ม.ค. 63 ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว ในวันที่ 17 ส.ค. 63 ได้คืนห้องพักและย้ายไปพักไปที่โรงแรมย่านสุขุมวิท และได้เดินทางกลับญี่ปุ่นวันที่ 20 ส.ค. 63 เมื่อไปถึงสนามบินฮาเนดะได้มีตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก
โดยจากการสอบสวนโรคผู้สัมผัสใกล้ชิดในกรณีดังกล่าว ระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. 63 และวันที่ 9 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา พบผู้สัมผัส จำนวน 76 คน ในบริษัทที่ทำงาน โรงแรมที่พัก และคอนโดมิเนียม โดยเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 22 คน และเสี่ยงต่ำ 54 คน มีการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการในผู้สัมผัสทั้งหมด 50 คน ผลทั้งหมดไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
รายที่ 2 เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 21 ปี (เป็นรายที่ 770 ของญี่ปุ่น) ที่อยู่เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นนักศึกษา กำลังเดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น จึงตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันที่ 27 ส.ค. 63 ให้ผลลบ เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่ 29 ส.ค. 63 ตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก จากการสอบสวนโรคในประเทศไทยไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
รายที่ 3 เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 44 ปี (เป็นรายที่ 790 ของญี่ปุ่น) ที่อยู่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เดินทางไปญี่ปุ่นทุก 3 เดือน เพื่อซื้ออะไหล่ โดยครั้งนี้เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่ 1 ก.ย. 63 ตรวจหาเชื้อโดยตัวอย่างจากน้ำลาย พบผลบวก
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคในประเทศไทย พบว่าในช่วง 14 วันก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น มีการเดินทางระหว่างที่ทำงานบริเวณถนนบางนา-ตราด และจ.ร้อยเอ็ด และมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ในวันที่ 28 หรือ 29 ส.ค. 63 ผลตรวจโควิด 19 เป็นลบ จึงมีการเดินทางในวันที่ 31 ส.ค. 63 ไปญี่ปุ่นกับเพื่อน 1 คน ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดร่วมบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด มี 4 คน ได้แก่ ยาย ภรรยา ลูกชาย และหลานสาว ไม่มีใครป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ อยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสรายอื่น และการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสใกล้ชิด หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป