ปอท.เจองานหิน ชี้มือแฮกระบบ รพ.สระบุรี อยู่ต่างประเทศตามจับตัวยาก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ปอท.เจองานหิน ชี้มือแฮกระบบ รพ.สระบุรี อยู่ต่างประเทศตามจับตัวยาก
จากกรณี โรงพยาบาลสระบุรี เกิดเหตุการณ์ระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถใช้งานระบบต่างๆ ของโรงพยาบาลได้ หลังถูก แฮกเกอร์ ได้เรียกร้องให้เหยื่อทำการจ่าย Bitcoin เป็นจำนวนตามที่ทางนักแฮกเกอร์เรียกร้อง ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ 200,000 BTC หรือประมาณ 63,000 ล้านบาท หากอ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่ 1 BTC ต่อ 319,577.01 บาท บนตลาด Bitkub
ล่าสุด พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.ในฐานะโฆษก ปอท . เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. (INN) ว่า ปอท.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนหา เส้นทางจราจรคอมพิวเตอร์และข้อมูลในการกระทำความผิด กรณีแฮกเกอร์ส่งไวรัส Ransomware voidcrpt เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของ โรงพยาบาลสระบุรี ทําให้ฐานข้อมูลผู้ป่วย ไม่สามารถใช้งานได้ ,ภาพสแกนเวชระเบียนผู้ป่วยเสียหาย
โดยระบุว่า ในการสืบสวนคาดว่าต้องใช้เวลาในการสืบสวนสักระยะพร้อมระบุว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก ส่วนมากผู้ก่อเหตุจะอยู่ต่างประเทศและเรียกเงินสกุลบิตคอยน์เพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยในประเทศไทยเคยเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว แต่คนร้ายจะเลือกเจาะระบบของบริษัท ห้างร้าน ตลอดจนบุคคลธรรมดา เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับโรงพยาบาลครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรก ซึ่งยอมรับว่าการทำกับโรงพยาบาล ซึ่งมีฐานข้อมูลสำคัญของผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนสาเหตุที่คนร้ายเลือกเจาะระบบของ รพ.สระบุรี จะด้วยสาเหตุใดนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะพบช่องว่างหรืออะไรบางอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหามาตรการป้องกัน อย่างไรก็ดีที่ผ่านมายังไม่เคยจับกุมผู้ก่อเหตุได้มาก่อน
ทางด้าน พลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส. หัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ยืนยันว่า มัลแวร์ที่โจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี มาจากต่างประเทศ ในฝั่งทวีปยุโรป ลักษณะมีการส่งต่อข้อมูลหลายขั้นตอน จนมาถึงโรงพยาบาลสระบุรี แต่ยังไม่มีการเรียกเงินค่าไถ่
ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทั้งจากตำรวจ ทหาร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส อยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของมัลแวร์ดังกล่าว และลักษณะการทำงานของมัลแวร์ แต่ยอมรับพบข้อมูล มีโรงพยาบาลและบริษัทเอกชนบางแห่ง ถูกแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบางแห่งได้มีการจ่ายเงิน เพื่อเรียกคืนข้อมูลไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ถูกแฮกข้อมูลช่วงเวลาเดียวกันกับโรงพยาบาลสระบุรีหรือไม่ ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลหรือกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียหายได้
พลตำรวจตรีพันธนะ ยังยอมรับ กรณีโรงพยาบาลสระบุรี เป็นเรื่องใหม่ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมาดำเนินการ แม้จะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งจากนี้ ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องแสวงหาความร่วมมือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น พร้อมเห็นว่า การจัดตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หน่วยงานใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะช่วยรองรับภารกิจด้านปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อน กระจายอยู่หลายพื้นที่ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น