เปิดดราม่า ลุงพล แห่งบ้านกกกอก ก่อนโดนประกาศแบน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เปิดดราม่า ลุงพล แห่งบ้านกกกอก ก่อนโดนประกาศแบน
กลิ่นดราม่าหึ่งโซเชียลอีกแล้ว ชาวเน็ตต่างดัน #แบนลุงพล จนติดเทรนด์อันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว รวมทั้งประเด็นที่หัวหน้าช่างภาพช่องดังต้องลาออก เพราะทนความเน่าเฟะไม่ไหว วันนี้เราจะพาไปดูว่าทำไมลุงพลจึงกลายเป็นคนดัง ทั้งๆ ที่ทุกอย่างเริ่มต้นมาจากการเสียชีวิตของเด็กคนหนึ่ง
สืบเนื่องจากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนี้กินเวลายืดยาวมาถึง 4 เดือน แต่ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายที่ฆ่าน้องชมพู่ได้
ซึ่งในตอนแรกนั้น "ลุงพล-ไชย์พล วิภา" ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของน้องชมพู่ ก็ถูกพ่อแม่ของน้องชมพู่ สงสัย และเป็นเรื่องบาดหมางในครอบครัวไป ลุงพลจึงออกมาชี้แจงผ่านสื่อหลายครั้งจนคนเริ่มจำหน้าได้
สืบเนื่องจากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนี้กินเวลายืดยาวมาถึง 4 เดือน แต่ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายที่ฆ่าน้องชมพู่ได้
ซึ่งในตอนแรกนั้น "ลุงพล-ไชย์พล วิภา" ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของน้องชมพู่ ก็ถูกพ่อแม่ของน้องชมพู่ สงสัย และเป็นเรื่องบาดหมางในครอบครัวไป ลุงพลจึงออกมาชี้แจงผ่านสื่อหลายครั้งจนคนเริ่มจำหน้าได้
จุดเริ่มต้นของความดังนั้นมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้นำภาพของลุงพลในวัยหนุ่มออกมาแชร์ต่อกัน จึงทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนต่างชมลุงพลว่าหน้าตาดี บางคนก็ว่าดีกว่าดาราบางรายเสียด้วยซ้ำ
จากนั้น "หมอปลา" มือปราบวิญญานในรายการทีวีดัง ได้เข้าพื้นที่บ้านกกกอก เพื่อพบครอบครัวน้องชมพู่เพื่อให้กำลังใจ รวมทั้งให้กำลังใจลุงพล และมั่นใจว่าลุงพลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่
ฝ่ายพ่อแม่และญาติน้องชมพู่บางส่วนไม่พอใจ ติดป้าย "บ้านนี้ไม่ต้อนรับหมอปลา" ไว้หน้าบ้าน และบอกว่าหมอปลาเข้ามาสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งยังตอกย้ำความเจ็บปวดของคนที่เสียลูก
ฝ่ายพ่อแม่และญาติน้องชมพู่บางส่วนไม่พอใจ ติดป้าย "บ้านนี้ไม่ต้อนรับหมอปลา" ไว้หน้าบ้าน และบอกว่าหมอปลาเข้ามาสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งยังตอกย้ำความเจ็บปวดของคนที่เสียลูก
ต่อมาผู้จัดการดาราชื่อดัง "อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ" ประกาศว่าจะสร้างคดีน้องชมพู่เป็นภาพยนตร์ "กกกอด"
แต่หลังจากนั้นโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย จึงได้พับเก็บโครงการนี้ไป
แต่ยังไม่ทิ้งอีกหนึ่งความฝันที่ได้มอบไว้ให้กับลุงพลที่เตรียมจะผลักดันลุงพลเข้าสู่วงการบันเทิง เตรียมพูดคุย เพื่อให้ร่วมเเสดงเป็นพระเอกเอ็มวี ของธันวา ราศีธนู
แต่หลังจากนั้นโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย จึงได้พับเก็บโครงการนี้ไป
แต่ยังไม่ทิ้งอีกหนึ่งความฝันที่ได้มอบไว้ให้กับลุงพลที่เตรียมจะผลักดันลุงพลเข้าสู่วงการบันเทิง เตรียมพูดคุย เพื่อให้ร่วมเเสดงเป็นพระเอกเอ็มวี ของธันวา ราศีธนู
"ซินแสเข่ง อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง" ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ก็ยังออกมาวิเคราะห์ถึงโหงวเฮ้ง หรือ "นรลักษณ์ศาสตร์" ของลุงพลว่านั้นมีโหงวเฮ้งที่ดีเหมาะกับการเป็นคนมีชื่อเสียง
จนกระทั่งเมื่อนักร้องสาวชื่อดัง "จินตหรา พูนลาภ" ได้ออกเพลง เต่างอย อีกครั้ง ซึ่งมีลุงพลเข้าร่วมร้องเพลงด้วยกัน
จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม อีกทั้งลุงพลยังโชว์เดี่ยวร้องเพลงเต่างอย หลังจากนั้นก็ได้ออก MV เพลงเต่างอยคู่กัน ได้ออกงานร่วมกัน พร้อมทั้งชวนลุงพลขึ้นเวทีคอนเสิร์ต
ซึ่งจินตหราได้บอกว่าตนนั้นไม่รู้เรื่องลุงพลเท่าไหร่ เพราะผู้จัดการเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด
จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม อีกทั้งลุงพลยังโชว์เดี่ยวร้องเพลงเต่างอย หลังจากนั้นก็ได้ออก MV เพลงเต่างอยคู่กัน ได้ออกงานร่วมกัน พร้อมทั้งชวนลุงพลขึ้นเวทีคอนเสิร์ต
ซึ่งจินตหราได้บอกว่าตนนั้นไม่รู้เรื่องลุงพลเท่าไหร่ เพราะผู้จัดการเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด
เลยพูดได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของลุงพลก็ว่าได้ จากผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่หลานแท้ๆ ของตัวเอง จนกลายเป็นดาราในข้ามวัน มีแฟนคลับ และคนรักมากมาย
หลายแบรนด์ต่างติดต่อมาหาลุงพล ไม่ว่าจะเป็น งานโชว์ตัวที่โชว์รูมรถยนต์ ,งานเดินแบบการกุศล โดยอุ๊บ วิริยะ ,งานถ่ายชุดพรีเวดดิ้ง ,งานออกรายการต่างๆ ,งานพรีเซ็นเตอร์อาหารเสริมให้กับปิ๋ม ซีโฟร์ และอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
หลายแบรนด์ต่างติดต่อมาหาลุงพล ไม่ว่าจะเป็น งานโชว์ตัวที่โชว์รูมรถยนต์ ,งานเดินแบบการกุศล โดยอุ๊บ วิริยะ ,งานถ่ายชุดพรีเวดดิ้ง ,งานออกรายการต่างๆ ,งานพรีเซ็นเตอร์อาหารเสริมให้กับปิ๋ม ซีโฟร์ และอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
ลุงพลรับทรัพย์ไปแบบล้นกระเป๋า ใช้หนี้บ้าน หนี้รถได้หมด แต่แน่นอนเรื่องการทำงานในวงการบันเทิงแบบนี้ลุงพลคงต้องมีที่ปรึกษา ซึ่งก็คงไม่พ้น "อุ๊บ วิริยะ" ที่เข้ามาหาลุงพลตั้งแต่แรก เพื่อหวังจะดันให้เป็นดารา
ซึ่ง "หมอปลา" เองก็สนับสนุน เพราะเห็นว่าอุ๊บมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่ก็ไม่วายยังมีข่าวอีกว่าอุ๊บนั้นปาดหน้า "ไอซ์ สารวัตร" นักข่าวที่ลงพื้นที่ไปเกาะติดสถานการณ์จนสนิทกับลุงพล เรียกว่าฮอตขนาดที่ใครๆ ก็อยากเป็นผู้จัดการเลย
ซึ่ง "หมอปลา" เองก็สนับสนุน เพราะเห็นว่าอุ๊บมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่ก็ไม่วายยังมีข่าวอีกว่าอุ๊บนั้นปาดหน้า "ไอซ์ สารวัตร" นักข่าวที่ลงพื้นที่ไปเกาะติดสถานการณ์จนสนิทกับลุงพล เรียกว่าฮอตขนาดที่ใครๆ ก็อยากเป็นผู้จัดการเลย
แต่หลังจากเรื่องราวชีวิตของลุงพล ถูกนำเสนอในทีวีช่องดัง กระทั่งเกิดคำถามตามมาถึงความเหมาะสมและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากข่าวนี้
จนทำให้ชาวเน็ตได้เริ่มติดแฮชแท็ก #แบนลุงพล เริ่มไต่อันดับเทรนด์ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งมีหลากหลายประเด็นที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็น และถกเถียงกันเกี่ยวกับกระแสของลุงพลในแง่มุมต่างๆ
จนทำให้ชาวเน็ตได้เริ่มติดแฮชแท็ก #แบนลุงพล เริ่มไต่อันดับเทรนด์ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งมีหลากหลายประเด็นที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็น และถกเถียงกันเกี่ยวกับกระแสของลุงพลในแง่มุมต่างๆ
บางส่วนบอกว่าเรื่องเป็นแบบนี้ เพราะตัวลุงพลเอง การได้รับโอกาสเป็นเรื่องดี แต่ก็ควรรอให้คดีน้องชมพู่จบก่อน
บางคนบอกเป็นเพราะการทำงานของตำรวจนั้นล่าช้า ไม่ใช่ความผิดถ้าลุงพลนั้นจะรับโอกาสที่ถูกหยิบยื่นมาให้
ส่วนอีกความเคลื่อนไหว เช้าวันนี้หัวหน้าช่างภาพช่องดัง โพสต์ข้อความระบายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวลุงพล จนวันนี้ไม่สามารถอดทนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และตัดสินใจเดินออกมา พร้อมกับพร้อมติดแฮชแท็ก #แบนระบบ ก่อน #แบนลุงพล เถอะ
และล่าสุดมีผู้สื่อข่าวของทีวีช่องดังแห่งหนึ่ง โพสต์ข้อความขอลาออกอีกคน โดยระบุว่า "ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว" ซึ่งเหตุก็มาจากการลงพื้นที่ไปยังบ้านกกกอด พร้อมกับขอโทษในการนำเสนอข่าวของตัวเอง
สำหรับเรื่องราวความดราม่าของลุงพลนั้นจะเป็นยังไงต่อก็ต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่าลืมว่าประเด็นสำคัญที่สุดคือคดีของน้องชมพู่ อย่าปล่อยให้การเสียชีวิตของเด็กคนหนึ่งเงียบหายไป
ทั้งนี้ทุกคนก็ควรเสพข่าวอย่างมีสติ วิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณด้วย
ทั้งนี้ทุกคนก็ควรเสพข่าวอย่างมีสติ วิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณด้วย
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น