ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน(คราวที่ ๕)
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน(คราวที่ ๕)
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๕)
วันที่ 28 ส.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๕) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ ๔ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น
โดยที่รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด - 19 เพื่อให้บรรดาสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สามารถเปิดดำเนินการได้ และได้ดำเนินการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษา และสถาบันกวดวิชา แบบครบจำนวน ครบห้องเรียน ครบชั้นเรียน การจัดการประชุม การอบรม การสัมมนา หรือการแข่งขันกีฬา และการขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค แต่การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ
ดังกล่าวนั้นทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดความระมัดระวังตัวเช่นที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจนกลายเป็นการระบาดในวงกว้างต่อไปดังที่เกิดขึ้น
ในหลายประเทศ นอกจากนี้ ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการผลิตวัคซีนป้องกันโรคก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จึงยังมีความจำเป็นต้องกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลกลุ่มบุคคล สถานที่ กิจการ และกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขของประเทศ และป้องกันมิให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ที่อาจมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระลอกที่สองดังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกคราวหนึ่ง เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวเป็นไปโดยมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ โดยมุ่งรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชน เป็นสำคัญ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
วันที่ 28 ส.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๕) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ ๔ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น
โดยที่รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด - 19 เพื่อให้บรรดาสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สามารถเปิดดำเนินการได้ และได้ดำเนินการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษา และสถาบันกวดวิชา แบบครบจำนวน ครบห้องเรียน ครบชั้นเรียน การจัดการประชุม การอบรม การสัมมนา หรือการแข่งขันกีฬา และการขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค แต่การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ
ดังกล่าวนั้นทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดความระมัดระวังตัวเช่นที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนจนกลายเป็นการระบาดในวงกว้างต่อไปดังที่เกิดขึ้น
ในหลายประเทศ นอกจากนี้ ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการผลิตวัคซีนป้องกันโรคก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จึงยังมีความจำเป็นต้องกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลกลุ่มบุคคล สถานที่ กิจการ และกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขของประเทศ และป้องกันมิให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ที่อาจมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระลอกที่สองดังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกคราวหนึ่ง เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวเป็นไปโดยมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ โดยมุ่งรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชน เป็นสำคัญ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น