ยังไม่เข็ด "โอเน็ต" ทปอ.แย้มไต๋ปี49 ใช้แอดมิชชั่นส์อีก
ประธาน ทปอ.และอธิการบดี มศว เผยแนวโน้มที่ประชุม ทปอ.จะพิจารณาให้ตรึงใช้องค์ประกอบแอดมิชชั่นส์ของปีการศึกษา 2549 ต่อไปอีก 1 ปี หลังเกิดปัญหาการสอบโอเน็ตและเอเน็ต โดยยังไม่เพิ่มจีพีเอเป็นร้อยละ 30 ในปี 2550 แต่จะไม่มีการเว้นวรรคใช้แอดมิชชั่นส์แน่นอน เตรียมสรุปให้รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด
จากกรณีที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ประกาศผลทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ หรือโอเน็ต และแบบทดสอบทางการศึกษาขั้นสูงแห่งชาติ หรือเอเน็ต ซึ่งใช้ประกอบการสมัครรับคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือระบบแอดมิชชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2549 ผิดพลาด 2 ครั้ง และคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานกรรมการ สทศ. ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่นายประทีป จันทร์คง รักษาการผู้อำนวยการ สทศ. ประกาศจะไม่ขอเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการ สทศ.ตัวจริง
ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สทศ.ต้อง ระดมผู้เชี่ยวชาญและคณาจารย์ร่วมกันตรวจข้อสอบโอเน็ตและเอเน็ตใหม่ทั้งหมด ทั้งข้อสอบปรนัยและอัตนัย และจะประกาศผลการสอบใหม่อีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน โดยที่ สกอ.ได้ขยายปฏิทินรับสมัครในระบบแอดมิชชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2549 ทั้งระบบแอดมิชชั่นส์รับตรงและระบบแอดมิชชั่นส์กลาง ไปจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม จากนั้นจะประกาศผลการรับสมัครแอดมิชชั่นส์รับตรงรอบแรก วันที่ 14 พฤษภาคม และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าศึกษา ในวันที่ 20 พฤษภาคม ส่วนระบบแอดมิชชั่นส์กลางจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย ในวันที่ 24 พฤษภาคม และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าศึกษา ในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2549
จากปัญหาดังกล่าวทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และนักเรียนที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้ทบทวนองค์ประกอบการพิจารณาในระบบแอดมิชชั่นส์ในปี 2550 ใหม่ โดยจะมีการหารือในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ด้าน ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ให้เป็นประธานตรวจดูระบบการสอบโอเน็ตและเอเน็ต กล่าวว่า จะเข้าไปตรวจสอบระบบในสัปดาห์นี้ว่ามีจุดบกพร่องอย่างไร แล้วเป็นระบบที่ใช้ได้หรือไม่ ถ้าเป็นระบบที่ใช้ไม่ได้ก็ให้เลิกใช้ไป หรือใช้ได้แล้วหาวิธีปรับแก้ไม่ให้ผิดอีก แล้วจะทำให้ผลสอบโอเน็ตและเอเน็ตใช้ได้สำหรับปีการศึกษา 2550 หรือไม่ โดยจะรายงานให้รักษาการ รมว.ศึกษาธิการทราบ และนำไปให้ ทปอ.ประกอบการตัดสินใจในการประชุมวันที่ 29 เมษายน
สำหรับการหารือ ทปอ.จะไม่หารือว่าเว้นวรรคหรือชะลอใช้ระบบแอดมิชชั่นส์ในปีต่อไปแน่นอน หรือจะให้กลับไปใช้เอนทรานซ์แบบเดิม เพราะขณะนี้เดินหน้ามาแล้ว และทีมงานที่ทำเอนทรานซ์กระจัดกระจาย การรวมตัวใหม่ทำได้ยาก จะไม่เป็นธรรมสำหรับนักเรียนที่เตรียมตัวสอบตามที่ประกาศไปแล้ว ถ้าหากจะพูดคุยกันจะเป็นลักษณะว่าระบบแอดมิชชั่นส์ที่ใช้นี้จะเอาคะแนนโอเน็ตและเอเน็ต หรือจะเอาคะแนนสอบกลางอย่างเดียว อย่างไหนจะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ จะพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของคะแนนของชั้นเรียนว่าน่าเชื่อถือเพียงพอหรือไม่ ถ้าปีนี้เกิดความไม่เชื่อถือ การจะตรึงเพิ่มในองค์ประกอบของผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ (จีพีเอ) ไว้ที่เดิมก่อน คือร้อยละ 20 แต่การจะลดลงคงทำได้ไม่ง่าย หาก ทปอ.มีข้อสรุปแล้วก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ออกประกาศจะเห็นด้วยหรือไม่
ด้าน ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า ในการประชุม ทปอ.คงจะมีการหารือกันถึงมติของ ทปอ.ที่ให้ใช้แอดมิชชั่นส์ไปแล้วว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะในองค์ประกอบที่จะใช้ระบบแอดมิชชั่นส์นั้นจะยืดหยุ่นอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าผลจีพีเอที่จะใช้ต่อไปในปีการศึกษา 2550 เพิ่มเป็นร้อยละ 30 แต่เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น จะยังยึดตามมติเดิมต่อไป หรือจะใช้ระบบแอดมิชชั่นส์ในองค์ประกอบของปีการศึกษา 2549 ไปอีก 1 ปีก่อน คือ จีพีเอ ร้อยละ 20 และผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร (จีพีเอเอ็กซ์) ร้อยละ 10 รวมเป็นร้อยละ 30 เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น แต่หากที่ประชุม ทปอ.เสียงส่วนใหญ่ยังจะเดินหน้ามติเดิมก็ยินดีสนับสนุน
ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2549 แอดมิชชั่นส์ได้ให้ค่าน้ำหนักการพิจารณาผลการเรียนในชั้น ม.ปลาย ถึง 30% แบ่งเป็นองค์ประกอบผลการเรียนเฉลี่ยสะสมรวม 6 ภาคเรียนในชั้น ม.ปลาย หรือเทียบเท่า (จีพีเอเอ็กซ์) 10% และผลการเรียนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ชั้น ม.ปลาย (จีพีเอ) 20% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในปีการศึกษา 2550 (จีพีเอเอ็กซ์ 10% และจีพีเอ 30%) เมื่อถึงปีการศึกษา 2551 จะเพิ่มเป็น 50% (จีพีเอเอ็กซ์ 10% และจีพีเอ 40%) ในขณะที่ค่าน้ำหนักผลการสอบโอเน็ตและเอเน็ตจะลดลงเรื่อยๆ จากค่าน้ำหนักรวม 70% ในปีการศึกษา 2549 ลดลงมาเป็น 60% ในปีการศึกษา 2550 และเหลือ 50% ในปีการศึกษา 2551
อนึ่งที่ผ่านมา กลไกและกระบวนการรับสมัครและการสอบโอเน็ตและเอเน็ตที่ผ่านมามีปัญหามาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเรียนในเรื่องการใช้ระบบสมัครสอบผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นปัญหากับนักเรียนชนบท การต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการสมัครสอบมากกว่าระบบเอนทรานซ์ ปัญหาการไม่ทราบรายละเอียดระเบียบการสอบ เพราะอยู่ห่างไกลอินเทอร์เน็ต การจัดห้องสอบให้นักเรียนไม่ตรงกับที่ สทศ.ประกาศในอินเทอร์เน็ต
รวมทั้งการเปลี่ยนให้ใช้ปากกาสีดำกากบาทคำตอบในข้อสอบโอเน็ตและเอเน็ต แทนที่จะให้ใช้ปากกาสีน้ำเงินหรือดินสอ ปัญหาเรื่องที่ สทศ.ใช้ข้อสอบเพียงชุดเดียว ไม่สลับชุดเหมือนเอนทรานซ์ ปัญหาอินเทอร์เน็ตล่มบ่อยจนดูประกาศผลสอบไม่ได้ นักเรียนไปนั่งสอบจริง แต่ สทศ.กลับระบุในใบแจ้งผลสอบว่าขาดสอบ ผลคะแนนสอบออกมาผิดพลาดเป็นศูนย์ สทศ.คำนวณคะแนนผลสอบผิด ฯลฯ


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว