น.พ.วิเชียร กล่าวว่า จากการสืบประวัติพบว่าผู้เสียชีวิตตั้งท้องที่ 2 และครั้งนี้มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพที่ 5
ก่อนผ่าตัดคลอดที่จุดฝากครรภ์ได้ตรวจวัดความดันพบว่ามีความดันสูง ไม่มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เบื้องต้นมีแค่ภาวะความดันสูงขณะตั้งครรภ์ จึงเป็นภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด จากการที่ลูกดิ้นน้อยลงได้ส่งตรวจผลคลื่นหัวใจของเด็กในครรภ์พบว่าปกติอยู่ แต่มดลูกเรื่องของความดันอยู่ในช่วง 120 - 154
เมื่อเป็นเช่นนี้ได้มีการประเมินภาวะความพร้อมของแม่และเด็กในท้องด้วย จึงได้แจ้งให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในการผ่าตัดคลอด หลังผ่าตัดเด็กคลอดมาแล้วพบว่ามีภาวะเลือดออกค่อนข้างมากขณะผ่าตัด และตัวรกเกาะติดแน่นบริเวณด้านหน้ามดลูก ซึ่งเป็นรอยผ่าตัดคลอดครั้งที่แล้วจากที่กรุงเทพฯ ซึ่งการที่มีเลือดออกมากนั้นในการให้ยาเพื่อให้บีบรัดมดลูกแข็งตัว เพื่อให้เลือดออกน้อยลงเป็นข้อห้ามกรณีมีภาวะความดันสูง แพทย์จำเป็นต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดเย็บมดลูกทางเทคนิค เป็นการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดจากที่ผ่าตัดมีเลือดออกแล้ว 600 ซีซี ถือว่าค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องเย็บมดลูกเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังจากที่คลอดไปแล้ว โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณกว่า 30 นาที