เปิดใจ! หนุ่มตายแล้วฟื้น แม่เชื่อพ่อปู่เขาใหญ่ช่วยชีวิตไว้

จากเหตุการณ์อันน่าตกตะลึง เมื่อนายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำของบ้านเลขที่ 364/2 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แพทย์รพ.พหลพลพยุหเสนา ชันสูตรศพไม่พบชีพจร และไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เตรียมนำร่างส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะห่อศพนั้น นายรเมศกลับลืมตาฟื้นคืนชีพกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจของแพทย์ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอยู่ในที่เกิดเหตุทุกคน ก่อนจะช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วนจนอาการดีขึ้น ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของนายรเมศ ก็พบว่ามี พ่อ แม่ พี่สาว รวมถึงบรรดาญาติๆที่มารวมตัวกันอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกันอย่างแน่นขนัด โดยนายรเมศ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ตนได้กวาดบ้านชั้นบนเสร็จ เกิดรู้สึกปวดท้องจึงเดินมาเข้าห้องน้ำตามปกติ แต่เกิดอาการท้องผูกถ่ายไม่ออก นั่งอยู่นานเกือบ 30 นาที จนรู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง หายใจไม่สะดวก เลยเอาหัวไปพิงกับกำแพงห้องน้ำเพื่อจะพักร่างกายสักครู่ แต่หลังจากนั้นก็หมดสติจำอะไรไม่ได้เลย มาเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนเอะอะโวยวาย แต่ตนก็ยังไม่สามารถลืมตาหรือพูดอะไรได้

นายรเมศ กล่าวอีกว่า ช่วงขณะนั้น ตนรับรู้ได้ทุกอย่าง ทั้งช่วงที่มีการพลิกตัวไปมา และยกร่างของตนใส่ผ้าห่อศพ จากนั้นตนมาลืมตาขึ้นได้ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังใช้ผ้าห่อร่างแล้ว เตรียมจะนำร่างของตนไปเข้าโรงเย็นเพื่อเก็บรักษาและรอส่งไปชันสูตร โชคดีที่ตำรวจหันมาเห็นตนลืมตาพอดี จึงแจ้งให้แพทย์ตรวจร่างกายของตนอีกครั้ง เมื่อพบว่ามี ชีพจร จึงรีบนำส่งรพ.จนทำให้ตนรอดชีวิตมาได้ดังกล่าว นายรเมศยังได้กล่าวว่า ช่วงที่หมดสติไปนั้นไม่ได้ฝันหรือเห็นสิ่งใด เป็นเหมือนคนที่หลับลึกเท่านั้น ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยมีอาการวูบเช่นนี้มาก่อน อาจจะมีอาการเหนื่อยล้าจนลืมตาไม่ขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด และตนรู้สึกโชคดีมากที่ได้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ด้าน นางนุสรา จันทะโก แม่ของนายรเมศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ป้าของนายรเมศ โทรมาบอกว่า ลูกชายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ เลยรีบขับรถออกจาก อ.สังขละบุรี เพื่อมาให้ทันได้กอดลูกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนศพจะถูกนำศพส่งไปรพ. ระหว่างทางเข้าเมืองกาญจนบุรีก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เลยตั้งจิตอธิษฐานกับพ่อปู่เขาใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ให้ช่วยเหลือลูกของตนด้วย จากนั้นป้าก็โทรกลับมาบอกว่า ลูกชายฟื้นกลับมาแล้ว ทำให้รู้สึกตกใจและงุนงงเป็นอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จึงพยายามขอที่จะคุยกับลูก แต่ก็ยังไม่ได้คุย เนื่องจากลูกอยู่ในการดูแลของแพทย์ 

นางนุสรา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายมีอาการป่วยด้วยโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วตั้งแต่เกิด แพทย์ผ่าตัดรักษาให้เมื่อตอนอายุ 5 ขวบ ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง ประกอบกับช่วงก่อนเกิดเหตุ ลูกชายพักผ่อนน้อย เพราะว่าใช้เวลาไปกับการเรียน มสธ. เล่นเกม และฝึกทำคอนเทนต์ยูทูป ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น การได้ลูกชายกลับมาในครั้งนี้คล้ายกับเป็นของขวัญวันแม่ชิ้นใหญ่ที่ตนได้รับในชีวิต จากนี้ไปก็เตรียมที่จะพาลูกไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่รพ.พระมงกุฏเกล้าอีกครั้ง จากนั้น ก็จะให้ลูกบวชให้ได้ 1 พรรษา เพราะอายุถึงเกณฑ์บวชแล้ว จึงอยากให้ลูกได้บวชให้สมกับที่ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง