เปิดผลชันสูตรรอบ 2 ชี้ชัด ‘จารุชาติ’ เสียชีวิตเพราะอะไร !?

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้เดินทางเข้าประชุมร่วมกับศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อสรุปผลการชันสูตรศพรอบที่ 2 ของนายจารุชาติ มาดทอง ที่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 29 ก.ค. 63 โดยปรากฎข้อมูลว่าผู้ตายเป็นพยานปากสำคัญในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทำให้เกิดความกังขาถึงสาเหตุการเสียชีวิต

ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันที่ทีมแพทย์รับตัวนายจารุชาติ มาก็พบว่าอาการโคม่า ไม่มีชีพจรแล้ว ทีมแพทย์ปั๊มหัวใจนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนประกาศการเสียชีวิต ซึ่งสันนิษฐานได้ว่านายจารุชาติ น่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ด้าน รศ.พญ.กานดา เมฆใจดี หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ เปิดเผยว่าหลังรับศพได้ทำการชันสูตรศพในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 31 ก.ค.63 และการชันสูตรศพรอบสอง ตามที่ได้รับคำสั่งมาให้ตรวจช้ำรอบที่ 2 ซึ่งผลการชันสูตรทั้ง 2 ครั้งออกมาเหมือนกัน สรุปการเสียชีวิตของผู้ตายมีการถลอกด้านซ้ายของศีรษะ และบ่าซ้าย ผ่าตรวจด้านในพบเลือดออกที่ฐานสมองและก้านสมอง ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตได้เพราะเป็นอวัยวะควบคุมการหายใจ การบาดเจ็บในบริเวณดังกล่าวจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

ผลการชันสูตรยังพบกระดูกซี่โครงซ้ายด้านหลังหัก 1 ซี่ เป็นการหักก่อนเสียชีวิต และกระดูกซี่โครงด้านหน้าหักหลายจุด เป็นการหักหลังเสียชีวิตหรือกำลังจะเสีชีวิตซึ่งน่าจะเกิดจากการปั๊มหัวใจ และมีเลือดออกที่ช่องท้อง 1,500 ซีซี ม้ามแตก 2 จุด ไตข้างซ้ายปริ ไม่มีบาดแผลอื่นใด หรือจากการสแกนร่างกายทั้งหมดก็ไม่พบร่องรอยของโลหะหรือหัวกระสุน ไม่มีบาดแผลอื่นใด อีกทั้งผู้ตายมีอาการไขมันพอกตับ

เปิดผลชันสูตรรอบ 2 ชี้ชัด ‘จารุชาติ’ เสียชีวิตเพราะอะไร !?

รศ.พญ.กานดา กล่าวด้วยว่า ในการชันสูตรครั้งแรก ไม่ได้ผ่าลำคอเพราะเป็นกรณีรถเฉี่ยวชน แต่ในการชันสูตรครั้งที่ 2 ได้ผ่าพิสูจน์เพิ่มเติม เพราะเป็นคดีที่หลายฝ่ายมีข้อข้องใจ และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ร่วมด้วย รวมทั้งตรวจสอบจากภาพถ่าย 177 รูป ตาไม่มีจุดเลือดออก ในช่องปากไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย สรุปสาเหตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งการบาดเจ็บสามารถทำให้เสียชีวิตแบบนี้ได้ โดยกลไกการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากแรงกระแทก และไม่สัมพันธ์กับความเร็ว เพราะตามหลักวิชาผู้ตายมีแอลกอฮอล์ในเลือดกว่า 218 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้ร่างกายขาดการควบคุม พอเกิดการกระแทกจากอุบัติเหตุ ปฏิกิริยาของกล้ามเนื้อเสียไป แค่ถูกชกปลายคางก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยกรณีนี้อุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสะบัดระหว่างล้ม ทำให้เกิดการปริแตกของเส้นเลือดในก้านสมอง จนทำให้เสียชีวิตได้

"แพทย์ได้ทำการผ่าตรวจพิสูจน์ทุกจุดหมดแล้วไม่มีอะไรน่าสงสัย ส่วนการตรวจสารพิษอื่นๆในร่างกาย ยังต้องรอผลตรวจในห้องปฏิบัติการที่จะออกในอีกไม่กี่วัน เมื่อทราบผลจะมีการชี้แจงอีกครั้ง สำหรับศพของนายจารุชาติ ทางโรงพยาบาลจะเก็บรักษาไว้เพื่อรอญาติส่งหนังสือมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรกับศพ"รศ.พญ.กานดา กล่าว

ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าในคดีนี้จากพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานบุคคล เบื้องต้นตอนนี้สรุปได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะเรามีการตรวจสอบกล้องทุกจุด ทุกเส้นทางที่ทั้งสองขับรถ ซึ่งจากวงปิดตลอดส้นทางที่ทั้งสองขับรถตามกันไม่มีคนอื่นใดขับรถนำหน้า หรือตามหลัง จนหลังเกิดเหตุก็มีกู้ภัยและพลเมืองดีมาช่วยโดยตำรวจได้สอบปากคำพยานไว้หมดแล้ว สรุปผลเบื้องต้นคดีนี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ยังต้องรอผลจากการตรวจทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อจะได้ชี้แจงทุกประเด็นให้ตอบข้อสงสัยของสังคมให้ได้ทุกข้อ โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้ตายทำงานให้อดีต สว. และสถานที่ทำงานมีเครื่องดื่มชูกำลังสปอนเซอร์