ทนายตั้ม แจ้งความเอาผิด นายอัจฉริยะ นำข้อมูลลับน้องชมพู่มาเผยแพร่
ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร บริเวณภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร และครบ 2 เดือนแล้วแต่ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้นั้น
ขณะเดียวกันก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้นมาอีกเมื่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์สดโดยนำภาพน้องชมพู่และผลนิติเวชมาแสดงโดยเชื่อมั่นว่ามีคนฆาตกรรมน้องชมพู่ กระทั่งทางทนายษิทราเบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แสดงความไม่พอใจและเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายอัจฉริยะ
ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "คดีน้องชมพู่ชมรม พบหลักฐานสำคัญที่จะสามารถคลี่คลายปริศนา" ซึ่งคาดว่า หลักฐานนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญเพื่อยุติมหากาพย์คดีน้องชมพู่ และคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต
ต่อมาเวลา 19.30 น.วันที่ 19 ก.ค.2563 นายอัจฉริยะ ได้ไลฟ์สดเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ โดยนำเอกสารของทางโรงพยาบาลที่ระบุการเสียชีวิตของน้องชมพู่มาอธิบายโดยสรุปเชื่่อว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปบนเขาเองทำให้เสียชีวิต แต่อาจเกิดจากมีคนอุ้มน้องขึ้นไปแล้วทรามานน้องจนทำให้เสียชีวิต
นอกจากนี้ทนายษิทรา ยังได้โพสต์ตอบคนที่เข้ามาคอมเม้นท์ด้วยว่าที่ผมต้องออกมาปรามก็เพราะอย่างนี้แหละครับ บางคนคิดน้อย โดนโน้มน้าวง่าย ขนาดแพทย์ออกมาพูดกลับไม่เชื่อ แต่คนที่ชอบไปวุ่นวายทำคดีเละเทะ พูดจาให้ดราม่าน่าสงสารกลับเชื่อ
ปล.เวลาคนเสียชีวิต เลือดก็จะตกไปตามแรงโน้มถ่วงโลกแบบนี้แหละครับ ถ้านอนหงายหลังก็จะแดง ถ้าหน้าคว่ำบริเวณด้านหน้าก็จะแดง เป็นแบบนี้ทุกศพ แล้วที่แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะเดินไปตายเอง เพราะมันไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือนิติเวช ว่าถูกทำร้าย หรือทำให้ตาย ผู้ที่พอมีปัญญาก็จะไม่แสดงความคิดเห็นใส่ร้ายใคร หรือทำให้สังคมสับสนเพื่อตีเรื่องแบบนี้ให้ดังหรอกครับ