ธนาธร ให้กำลังใจผู้ชุมนุม แม้ถูกกล่าวหาผู้อยู่เบื้องหลัง! (คลิป)

วานนี้ (18 ก.ค.63) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการนัดชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ที่ใช้ชื่อว่า เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH โดยมีประชาชนที่สนับสนุนเดินทางมาเข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล

โดยช่วงหนึ่งในการปราศรัย ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันชู 3 นิ้ว ประกาศ 3 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล คือ 1. ขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภา จากการความล้มเหลวในการบริหารประเทศ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ 2. ขอให้หยุดคุกคามประชาชน และ 3. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตย

รวมถึงได้ประกาศให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ ทำตามข้อเรียกร้อง หากไม่ดำเนินการก็พร้อมยกระดับการชุมนุมต่อไป

ทั้งนี้ ในตอนแรกกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศจะนอนค้างคืนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนช่วงเช้าในเวลา 08.00 น. จะร่วมกันร้องเพลงชาติ เพื่อปลุกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้ตื่นได้แล้ว แต่ในเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุมกลางดึก เหตุเพราะหวั่นว่าประชาชนจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ด้าน เพจเฟซบุ๊ก เชียร์ลุง ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า "หมดโควิด-19 มีวัคซีนแล้ว..เราพบกัน #เดินเชียร์ลุง2 เพื่อสนับสนุน "ลุงตู่" อยู่ยาว พร้อมมั้ยครับ #รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ"

ธนาธร ให้กำลังใจผู้ชุมนุม แม้ถูกกล่าวหาผู้อยู่เบื้องหลัง! (คลิป)

ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการที่นักศึกษานัดชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ยืนยันว่าตนจะไม่เข้าร่วม เพราะกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ของการเคลื่อนไหวของนักศึกษา แต่แม้จะไม่เข้าร่วม แต่ก็ขอส่งกำลังใจให้ เพราะถือเป็นกลุ่มที่มุ่งหวังต่อสู้กับเผด็จการ เรียกร้องให้ได้ประชาธิปไตยกลับมา ส่วนตัวขอให้ประชาชนช่วยกับสนับสนุนนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย

ส่วน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องรายละเอียดของข้อเรียกร้อง แต่มองว่ารัฐบาลต้องมีหน้าที่รับฟังความเห็นจากประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม เพราะเมื่อขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศ เป็นรัฐบาล ประชาชนจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร รัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะรับฟัง ส่วนจะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งถือเป็นหลักที่ควรจะต้องยึดไว้

นอกจากนี้ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี และอดีตรองโฆษก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าเจตนาการออกมาแสดงพลังของเยาวชนก็คงอยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาขึ้น แต่การแสดงออกต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และใช้ข้อเท็จจริงในการสื่อสาร อย่าหลงเชื่อหรือให้ใครอยู่เบื้องหลังยุยงปลุกปั่นได้

ทั้งนี้ เห็นว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อนั้น ยังไม่มีความจำเป็น และไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และเศรษฐกิจกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี หากมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ยิ่งจะแย่ลงไป กลายเป็นซ้ำเติมปัญหาปากท้องประชาชนไปอีก

สำหรับข้อเรียกร้องที่ 2 นั้น ตั้งแต่มีการเลือกตั้ง และมีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยคุกคามประชาชน พร้อมสนับสนุนให้มีการใช้เสรีภาพที่อยู่ในขอบเขต โดยที่ไม่ไปกระทบสิทธิของผู้อื่น ไม่มีการใช้กฎหมายความมั่นคงปิดปากประชาชน มิฉะนั้นคงไม่มีการชูป้ายประท้วง และการชุมนุมหลาย ๆ ครั้งเกิดขึ้นได้

และสำหรับข้อเรียกร้องที่ 3 ให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการของกมธ. วิสามัญพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 กำลังมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน รวมทั้งมี ส.ส. ทุกพรรคนั่งใน กมธ. ชุดนี้ ดังนั้นจึงควรนำเสนอความเห็น ข้อเรียกร้องพร้อมเหตุผลผ่านช่องทางของ กมธ.

ส่วนกรณีที่นายธนาธร กล่าวสนับสนุนและเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมนั้น ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ตอกย้ำถึง ความกลับไปกลับมา มีเพียงคำพูดสวยหรูแต่ไร้หลักการ เพราะในอดีตนายธนาธร เคยพูดไว้บนเวทีดีเบตลุยศึกเลือกตั้ง 62 ประชันวิสัยทัศน์แคนดิเดตนายกฯ ณ ลานโพธิ์ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.62 ว่า

"ไม่สนับสนุนการลงถนน ให้สู้โดยกลไกสภา" พูดย้ำหลายครั้งว่า "รัฏฐาธิปัตย์ยังอยู่ที่สภา ๆ ๆ " ซึ่งวันนั้นตนก็ชื่นชมที่ยึดหลักแกนของประชาธิปไตย แต่ทำไมมาวันนี้กลับลืมคำพูดตัวเอง ทำตรงกันข้ามกับที่พูดอย่างสิ้นเชิง คำถามนี้ขอให้นายธนาธร ตอบและพร้อมที่จะส่งคลิปวีดีโอคำพูดดังกล่าวให้ฟัง ในกรณีที่นายธนาธรจำที่พูดไว้ไม่ได้