ศาลปกครอง สั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินโรงแรมหรู รื้อถอนภายใน 90 วัน


ศาลปกครอง สั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินโรงแรมหรู รื้อถอนภายใน 90 วัน


วันนี้ (16 ก.ค.) ศาลปกครองเพชรบุรีมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินของบริษัท วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรูใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีออกโฉนดที่ดินทับถนน ทางสาธารณะและให้เทศบาลเมืองหัวหินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำ พร้อมปรับปรุงให้เป็นถนนสาธารณะดังเดิม ภายใน 90 วัน

คดีนี้ นายสมศักดิ์ เขียวขำ พร้อมพวก รวม 6 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ยื่นฟ้องอธิบดีกรมที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน กล่าวหาว่ารังวัดออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 9155 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รุกล้ำหรือทับทางสาธารณะ บริเวณเลียบชายหาดทะเลหัวหิน หรือชายหาดสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทางสาธารณะเลียบเชิงเขาตะเกียบ ด้านทิศตะวันตกของเขาตะเกียบ ที่ชาวบ้านและชาวประมงใช้สัญจรมาเป็นเวลานาน ทำให้ทางสาธารณะส่วนที่อยู่เลียบชายหาดหายไปทั้งหมด รวมทั้ง ส่วนที่เป็นถนนลาดยางถัดไปถูกรุกล้ำจนแคบ ปัจจุบันบริษัทวีรันดา เจ้าของที่ดินก่อสร้างกำแพงถาวร ล้ำส่วนที่ยังมีสภาพเป็นถนนลาดยางให้แคบไปทางทิศเหนือ รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ จึงขอให้ศาลเพิกถอนโฉนดที่ดิน หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตามโฉนด เพื่อกันเป็นเขตทางสาธารณะ และเพิกถอนโฉนดที่ดิน ที่ออกทับทางสาธารณะเต็มแปลง




ส่วนเหตุผลที่ศาลพิพากษาเพิกถอนโฉนด ระบุว่า เดิมที่ดินพิพาทเป็นตราจองที่ตราว่า "ได้ทำประโยชน์แล้ว" เลขที่ 866 ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุแนวเขตไว้ชัดเจนว่า ทิศตะวันออกและทิศเหนือจดทางสาธารณประโยชน์ สอดคล้องกับรูปแผนที่จำลองของที่ดินแนบท้ายตราจอง และตามรายงานการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ที่ดินจากภาพถ่ายทางอากาศ ฉบับเดือนมกราคม 2546 ซึ่งได้อ่าน แปลความ วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินพิพาทและที่ดินริมคลองตะเกียบ เมื่อปี พ.ศ. 2519 ก่อนเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ปรากฏให้เห็นชัดเจนว่า เป็นถนนหรือทางสาธารณะ ในลักษณะที่เป็นเส้นสีขาวต่อเนื่องกัน จากแนวเขตที่ดินด้านทิศเหนือของที่ดินแปลงพิพาท เชื่อมต่อไปตามแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว และเชื่อมต่อขึ้นไปยังวัดเขาตะเกียบ ในลักษณะเป็นทางสาธารณะสายเดียวต่อเนื่องกันอย่างไม่ถูกตัดตอนจากกัน สอดคล้องกับรายงานผลการตรวจสอบของเทศบาลเมืองหัวหินที่สรุปว่า ทางสาธารณะที่พิพาท เดิมเป็นทางเดินเท้า ผิวหน้าดินที่คั่นอยู่ระหว่างคลองตะเกียบ และแปลงที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 กับภูเขาตะเกียบ ตลอดตามแนวยาวของแปลงที่ดินดังกล่าวทางด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดิน ซึ่งเป็นทางสาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจรต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน



พยานหลักฐานดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ตราจองของบริษัท วีรันดา เมื่อครั้งที่เป็นที่ดินตราจอง แนวเขตที่ดินด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดิน จะติดกับถนนหรือทางสาธารณะตลอดแนว ไม่มีส่วนใดของแปลงที่ดินติดชายหาดทะเลหัวหิน หรือชายหาดทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณด้านเหนือของเขาตะเกียบ และไม่มีส่วนใดของแปลงที่ดิน ติดพื้นที่เขาตะเกียบ โดยไม่มีถนนหรือทางสาธารณะกั้นอยู่ แต่เมื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ทำให้แนวทางสาธารณะสูญหายไปจากหลักฐานโฉนดที่ดินทั้งหมด และมีการระบุแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินที่ต่อจากชายหาดทะเลในหลักฐานโฉนดที่ดินใหม่ เป็นติดกับพื้นที่เขาตะเกียบทั้งหมด ไม่มีแนวทางสาธารณะตามที่ปรากฏอยู่ในตราจองอีก โดยแนวทางสาธารณะที่หายไป ปัจจุบันเป็นแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 80321 ซึ่งตามรายงานผลการรังวัดแนวเขตตามโฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา อยู่ลึกเข้าไปกินเนื้อที่ของถนนลาดยาง ทำให้บางส่วนของผิวจราจรถนนลาดยางทับซ้อนเข้าไปในเขตหลักหมุดที่ดิน ประมาณ 1.50 - 2.00 เมตร



แสดงให้เห็นว่าการรังวัดเพื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 มีการเปลี่ยนแปลงแนวเขตด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินให้ติดชายหาดทะเล และติดพื้นที่เขาตะเกียบแทน ทำให้ทางสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 81256 และทำให้ทางสาธารณะที่ต่อจากชายหาดทะเลเข้าไปกั้นระหว่างแปลงที่ดินพิพาทกับพื้นที่เขาตะเกียบสูญหายไปทั้งหมด โดยทำให้ถนนหรือทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 81254 เต็มแปลง และเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 82765 เต็มแปลง ทำให้แนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 80321 รุกล้ำทางสาธารณะที่เป็นทางลาดยางปัจจุบันตลอดแนวด้วย การรังวัดเพื่อเปลี่ยนตราจองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 9155 ทำให้ถนนหรือทางสาธารณะที่เคยมีอยู่ กลายเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินพิพาท เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้โฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา ที่แบ่งแยกจากที่ดินแปลงดังกล่าวทุกฉบับ ในส่วนที่เคยเป็นถนนหรือทางสาธารณะที่ติดกับแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว ในส่วนที่เป็นพื้นที่ของโฉนดที่ดินแต่ละฉบับ เป็นโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

จึงพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดที่ดินของบริษัทวีรันดา เลขที่ 81256 เฉพาะส่วนที่เป็นพื้นที่แนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออก กว้าง 5 เมตร ที่ติดกับแนวชายหาดทะเล ของแปลงที่ดินดังกล่าวตลอดแนว โฉนดที่ดินเลขที่ 81254 เต็มแปลง โฉนดที่ดินเลขที่ 82765 เต็มแปลง และ โฉนดที่ดินเลขที่ 80321 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะส่วนที่รุกล้ำหรือทับซ้อนกับแนวเขตถนนลาดยางหรือแนวเขตถนนเดิม ตามแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินตลอดแนว เพื่อให้ถนนลาดยางหรือถนนเดิมมีความกว้าง 5 เมตร ตลอดแนวเขตที่ดินดังกล่าวดังเดิม




ให้อธิบดีกรมที่ดินกับพวกรังวัดกันเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกของแปลงที่ดินใหม่ เพื่อถอยร่นเข้าไปในแปลงที่ดินของบริษัท วีรันดา ให้เป็นถนนหรือทางสาธารณะตามผลการเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้ง 4 แปลงดังกล่าว โดยให้เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน แจ้งให้นายสมศักดิ์กับพวก เข้าร่วมสังเกตการณ์ รวมทั้ง แจ้งกำหนดนัดการรังวัดพร้อมส่งสำเนาคำพิพากษาให้เทศบาลเมืองหัวหิน สำนักงานเจ้าท่าที่รับผิดชอบในพื้นที่ นายอำเภอหัวหิน ผู้ปกครองท้องที่ หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมดำเนินการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้ส่งมอบแนวเขตถนนหรือทางสาธารณะตามผลการรังวัดกันเขตดังกล่าวให้แก่เทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อให้เทศบาลเมืองหัวหินเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำทางสาธารณะ และทำการก่อสร้างปรับปรุงให้เป็นถนนสาธารณะดังเดิมต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี MCOT สำนักข่าวไทย


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์