โฆษกกต.ตอบข้อสงสัย จริงหรือไม่?ลูกสาวทูตจะพักที่ไหนก็ได้

ถือเป็นหนึ่งในสองประเด็นสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้สำหรับ กรณี เด็กหญิงชาวซูดาน อายุ 9 ขวบ ลูกสาวคณะทูตจากประเทศซูดาน ที่ติดเชื้อแต่ใช้สิทธิทางการทูตไม่ต้องเข้าสถานที่กักกันของรัฐ แต่ไปพักอาศัยที่คอนโดย่านสุขุมวิท ซึ่งต่อมา นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยว่า เด็กหญิงรายนี้พบเชื้อขณะตรวจที่สนามบิน จนเป็นที่กังขา และ วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมกันอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ จอมขวัญ หลาวเพชร ได้เปิดสัมภาษณ์ นาย เชิดเกียรติ อัตถากร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ผ่านทางรายการถามตรงๆกับจอมขวัญ ทาง ไทยรัฐทีวี พร้อมตั้งคำถามว่า "ลูกสาวทูตจะพักที่ไหนก็ได้จริงหรือไม่? มีรายละเอียดดังนี้

ท่านโฆษกฯ เริ่มตอบว่า

"ตามข้อกำหนดที่ระบุไว้คือให้ไปตามที่พักที่ได้กำหนดไว้ และ เป็นที่พักที่ทางสถานทูตดูแลนะครับ"

ที่พำนักที่สถานทูตดูแลแปลว่าต้องขึ้นทะเบียนกับสถานทูตนั้นๆในประเทศไทยหรือไม่?

"ถ้าหากเป็นกรณีของท่านทูตเองนั้นก็ค่อนข้างชัดเจนครับว่าจะไปอยู่ที่ทำเนียบท่านทูตเป็นสถานที่ทางการ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่การทูตอื่นๆจะต้องไปอยู่ตามที่พักต่างๆนะครับ ซึ่งอันนี้แล้วแต่ว่าเค้าได้ดำเนินการเช่าที่ไหน แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการแจ้งให้ทางเรารับทราบครับ"

ถ้าตามข่าวนั้นมันจะมีที่พักที่ซอยสวนพลูและคอนโดมิเนี่ยมที่สุขุมวิททั้งสองแห่งนี้นับเป็ยสถานที่พำนักของอุปทูตอย่างเป็นทางการหรือไม่?

"คือบ้านเค้าเองจริงๆอยู่ที่คอนโดนะครับแต่หลังจากตรวจพบเชื้อ เราก็ได้แสดงความห่วงใยว่าสภาพความเป็นคอนโดอาจจะไม่ค่อยเหมาะ

ดังนั้นเค้าเลยเสนอที่จะมาอยู่บ้านที่เป็นที่พักของท่านทูตซึ่งทางด้านสธ.ได้ไปตรวจแล้วว่าจะมีการดูแลได้ดีกว่า จึงได้ย้ายครอบครัวของน้องที่ติดเชื้อมาตรงนี้นะครับ บ้านพักเป็นของท่านเอกอัคราชทูตนะครับ ส่วนของท่านอุปทูตที่ลูกสาวมีเชื้อนั้นเป็นคอนโด การที่ออกจากสุวรรณภูมิแล้วไปที่คอนโดเลยตามระเบียบปัจจุบันนี้ถูกต้องครับ เพราะถือเป็นถิ่นพำนักของท่านครับ"

ส่วนข่าวเรื่อง ท่านรองอธิบดีกรมควบคุมโรคมีการตรวจพบเชื้อตั้งแต่ในสุวรรณภูมิแล้วนั้น ข้อเท็จจริงคือหลังจากที่ได้มาถึงสนามบิน ก็ได้มีการตรวจเทสต์ที่เรียกว่าrtpcr ซึ่งเป็นการตรวจหาการปลอดเชื้อโควิดซึ่งได้ตรวจที่สนามบินและหลังจากนั้นจะต้องรอฟังผล เมื่อทราบผล ทางเค้ากลับไปที่พักแล้วก็ได้แจ้งผลให้เค้าทราบ ดังนั้นเค้าได้รับแจ้งว่าผลเป็นบวกจึงได้นำเด็กหญิงคนนี้ไปยังโรงพยาบาล และคนในครอบครัวจึงได้นำมากักตัวในบ้านพักที่เป็นของสถานทูตครับ

โฆษกกต.ตอบข้อสงสัย จริงหรือไม่?ลูกสาวทูตจะพักที่ไหนก็ได้

ประเด็นที่มีรายงานข่าวว่า เด็กมีอาการอยู่แล้ว ทางคุณพ่อทราบอยู่แล้วว่าลูกสาวมีอาการด้านปอด คำถามคือถ้ามีลักษณะต้องสงสัย เช่นอาจจะมีประวัติผ่านบางสถานที่ที่อาจจะทำให้ติดเชื้อได้ หรือมีอาการที่อาจจะเป็นโควิดได้ ณที่สนามบินเจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจทางสาธารณสุขหรืออำนาจในการเฝ้าระวังโควิดแล้วกักตัวเพื่อรอผลการตรวจได้หรือไม่?หรือไม่สามารถทำได้กับนักการทูตเลย

"อ๋อ ได้ครับ เพราะว่าจริงๆแล้วถ้าหากปรากฏมีอาการว่ามีผลตรวจเป็นบวกก็ต้องมีการกักตัวเพื่อนำไปรักษา ณ โรงพยาบาลนะครับ แต่ว่าในกรณีนี้ ช่วงที่อยู่สนามบินยังไม่ตรวจเจอ เอ่อ..ผมขอ อนุญาตเรียนว่า ก่อนที่ทางเค้าจะขึ้นก็มีการตรวจโรคและตอนแรกมันยังไม่เห็นอาการก็เลยได้ไปพักที่คอนโดและก็เก็บตัวอย่างส่งตรวจห้องปฎิบัติการซ้ำในวันเดียวกันจนพบว่ามีสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวนี้พบเชื้อครับและแจ้งให้เข้าพักในโรงพยาบาลทันทีครับ"

แต่ว่าถ้าต้องสงสัยที่สนามบินเจ้าหน้าที่ที่ตรวจอยู่ตรงด่านหน้าสามารถใช้อำนาจในการให้รอผลอยู่ที่สนามบินได้ใช่หรือไม่?

"ถูกต้องครับ...ใช่ครับ"...