ช็อค!!เจออีก12 ติดโควิด! ไฟลต์เดียวกับลูกทูต
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ช็อค!!เจออีก12 ติดโควิด! ไฟลต์เดียวกับลูกทูต
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายหน่วยงานในสังกัด ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เร่งสอบสวนโรคกรณีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวทูต ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว โดยขอให้ประชาชนทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด
โดยรื่องนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า
กรณีที่มีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวทูตป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองร่วมกันกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวทันที
จากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุ 9 ปี ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นรายที่เคยรายงานเป็นผู้ป่วยและมีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2563 โดยประวัติของผู้ป่วยเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมกับครอบครัวที่เป็นคณะทูต ซึ่งก่อนเดินทางได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 พร้อมครอบครัวรวม 5 คน เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรการก่อนเดินทางเข้าไทย ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อที่ประเทศต้นทาง และเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2563 เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำ ผลตรวจพบเด็กหญิงติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
โดยรื่องนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า
กรณีที่มีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวทูตป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองร่วมกันกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวทันที
จากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุ 9 ปี ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นรายที่เคยรายงานเป็นผู้ป่วยและมีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2563 โดยประวัติของผู้ป่วยเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมกับครอบครัวที่เป็นคณะทูต ซึ่งก่อนเดินทางได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 พร้อมครอบครัวรวม 5 คน เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรการก่อนเดินทางเข้าไทย ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อที่ประเทศต้นทาง และเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2563 เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำ ผลตรวจพบเด็กหญิงติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
" การเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของครอบครัวทูตดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการของคำสั่ง ศบค. เรื่องแนวปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 6 ในข้อ (3) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว "
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ในเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วย มีผู้โดยสารทั้งหมด 245 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค จำนวน 47 ราย จากการตรวจหาเชื้อพบผู้ติดเชื้อรวม 12 ราย รวมผู้ป่วยรายนี้ และมีการส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของกทม. สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมที่พำนักที่ครอบครัวผู้ป่วยเข้าพักก่อนทราบผลตรวจ โดยค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และได้ให้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบตามมาตรฐานทางสาธารณสุขแล้ว
" ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้ประเทศไทยยังมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 "
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ในเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วย มีผู้โดยสารทั้งหมด 245 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค จำนวน 47 ราย จากการตรวจหาเชื้อพบผู้ติดเชื้อรวม 12 ราย รวมผู้ป่วยรายนี้ และมีการส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของกทม. สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมที่พำนักที่ครอบครัวผู้ป่วยเข้าพักก่อนทราบผลตรวจ โดยค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และได้ให้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบตามมาตรฐานทางสาธารณสุขแล้ว
" ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้ประเทศไทยยังมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 "
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น