สาวช็อก! ถูกเรียกเรียกเก็บภาษี 32 ล้าน ร่ำไห้เผยรายได้แค่วันละ300บาท!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ สาวช็อก! ถูกเรียกเรียกเก็บภาษี 32 ล้าน ร่ำไห้เผยรายได้แค่วันละ300บาท!
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ อายุ 35 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรายวันอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านปู่เจ้าสมิงพราย ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้หอบเอกสารเข้าขอความเป็นธรรมกับ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ที่สำนักงานเกรียงศักดิ์และเพื่อนทนายความการบัญชี จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 1287 ตลาดธรรมสาโรจน์ ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ
หลังทราบว่าตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียก ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ออกหมายเรียกให้ไปพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งข้อความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ฯ ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร ฯ ที่มี กรมสรรพากร เป็นโจทย์ยื่นฟ้องเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเงินจำนวน 32 ล้านบาท กับ น.ส.นันทวรรณ ซึ่งถูกระบุว่า มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีเอ็นซี จำกัด
แต่ล่าสุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาก็มีหมายเรียกส่งไปที่บ้านที่ต่างจังหวัด และแม่ตนเป็นคนรับหมาย ซึ่งเขาก็บอกว่าน้องมีชื่อตามนี้นะ และให้ไปติดต่อกับตำรวจที่ทำคดีนี้ เราก็ไปหาตามหมายเรียกเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และตนก็ปฏิเสธเหมือน 4 ปีที่แล้วว่าไม่รู้เรื่อง และไม่เคยทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา แล้วตำรวจก็บอกว่าเดี๋ยวทำสำนวนเสร็จก่อนส่งอัยการ และจะโทรหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอกว่าทำสำนวนเสร็จแล้วเดี๋ยวเราไปอัยการกัน และเขาก็บอกว่าคดีน้องมันก็ไม่น่ากลัว น้องใช้ชีวิตได้ปกติขอแค่ไม่ผิดนัด และมาตามนัดก็พอ
แต่พอเราไปตามนัดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เขาก็พูดอีกแบบเลย พูดแบบว่าเรารู้สึกแย่ไปเลย บอกว่าน้องรับได้หรือเปล่า คดีแบบนี้มันรุนแรงนะมันเป็นคดีเศรษฐกิจ และถ้าเกิดน้องไม่มีเงินประกัน น้องติดคุกเลยนะ ตนเองก็เลยบอกว่าจะเอาเงินที่ไหนมาประกันตัวลูกก็ 4 คน แม่ก็อีกคนหนึ่ง ถ้าตนติดคุกใครจะเป็นคนส่งแม่กับลูก เขาก็บอกว่าเขาก็ทำตามหน้าที่ จากนั้นเขาก็เอาสำนวนขึ้นไปส่ง แล้วเขาก็มีใบอะไรสักอย่างมาให้ตนเซ็น และบอกว่าตนต้องไปศาล ไปถามเขาว่าหลักทรัพย์ในการประกันตัวคดีหลีกเลี่ยงภาษีเท่าไหร่ ตนก็เดินไปถามเขาก็บอกว่าเงินประกันหลักทรัพย์ประมาณ 2 แสนบาท เราก็ตกใจและถามว่าถ้าไม่มีเงินประกันจะทำอย่างไง เขาบอกว่าน้องก็ต้องติดคุก
ด้าน ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนรับเรื่องมา ในวันที่ 13 ก.ค.ตนก็ต้องไปที่อัยการ เพื่อทำคำร้องขอความเป็นธรรม คงต้องยื่นดู แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะยื่นในวันที่ 12 ก.ค.หรืออาจจะยื่นก่อนที่จะขึ้นศาล เพราะว่าต้องการให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งตนจะทำคำร้องขอความเป็นธรรมขึ้นไป ซึ่งน้องเขามาขอความเป็นธรรมเขาไม่มีเงินเลย และไม่รู้จักกับบริษัทที่ถูกกล่าวหา น้องเขาไม่ผิดไม่อยากให้เขาติดคุก และคดีนี้ตนเองก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายกับน้องเขา
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น