ทนายรณรงค์ วิเคราะห์ชัดๆ “ฌอน” เข้าข่าย “ฉ้อโกง”หรือไม่?

กรณีที่มีผู้ออกมาทวงถามเงินบริจาคช่วยเหลือดับไฟป่า ที่นายฌอน บูรณะหิรัญ ได้เปิดรับบริจาคผ่านทางเพจเฟซบุ๊คส่วนตัวที่มีผู้ติดตามถึง 4 ล้านคน เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่าเงิน ทั้งหมดหายไปไหน เพราะไม่ถึงมือคนทำงานดับไฟป่า โดยนายฌอนได้ออกมาชี้แจง การใช้เงินก้อนนี้แล้ว แต่หลายคนยังไม่หายคาใจ โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ล่าสุดนักกฎหมายหลายคนให้ความเห็นว่าการกระทำของ "ฌอน" อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายประการ

หน้าเพจเฟซบุ๊กของฌอน บูรณะหิรัญ นักพูดและไลฟ์โค้ชชื่อดัง ได้โพสต์รูปถ่ายคู่กับเจ้าหน้าที่ระหว่างลงพื้นที่ และใบเสร็จจ่ายเงิน พร้อมข้อความชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินบริจาค โดยฌอนอ้างว่า เขาได้เปิดรับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. และปิดรับบริจาคไปวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เงินมาทั้งหมด 875,741 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำไปใช้ใน 2วาระ คือเรื่องแก้ปัญหาไฟป่า และ การป้องกันโควิด-19

แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือคำชี้แจงของ ฌอน ที่ว่าเงินก้อนนี้ ไปใช้ทำสื่อประชาสัมพันธ์เป็นคลิปวิดีโอ 2 คลิป และต้องจ่ายเป็นค่าดำเนินการ ทีมงาน ตัดต่อ และโปรโมทโพสต์โดยจ่ายค่าโฆษณาให้แก่ Facebook ถึง 254,516 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 621,225 บาท ถูกนำไปซื้อของ เช่นหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และชุดป้องกันให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ โดยมีใบเสร็จมายืนยัน

ซึ่งก็มีคนจำนวนมากตั้งข้อสังเกตว่า คำชี้แจงของ ฌอน ยังมีข้อพิรุธหลายประการ ทั้งตอนที่รับบริจาคบอกว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือภารกิจดับไฟป่า แต่เหตุใดถึงนำเงินมาช่วยเรื่อง โควิด-19 แทน เท่ากับนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ และการนำเงินบริจาคที่ควรไปถึงมือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่ามาจ้างตัวเองและทีมงานทำคลิปถึง 2 แสนกว่าบาทนั้นเหมาะสมหรือไม่

รวมถึงตอนเปิดรับบริจาคเปิดรับในบัญชีชื่อตัวเอง แต่เวลาซื้อของและบริจาคกลับใช้ชื่อบัญชีบริษัท ซึ่งเรื่องนี้เป็นการจงใจใช้เอกสารไปลดหย่อนภาษีหรือไม่ และอีกประเด็นสำคัญ คือ หลายคนไม่เชื่อว่าเงินบริจาคจะได้เพียงแค่ 8 แสนกว่าบาท เพราะเพจเฟซบุ๊กของฌอนมีผู้ติดตามมากถึง 4 ล้านคน ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ฌอนออกมาเปิดเผยตัวเลขเงินภายในบัญชีที่รับบริจาคให้ชัดเจนและแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือ

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อสังเกตของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่สงสัยว่าหลังจากที่บอกว่าปิดรับบริจาคไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ยังมีเงินบริจาคเข้าบัญชีอีกหรือไม่ เพราะวันนี้ทนายรณรงค์ทดลองโอนเงินเข้าบัญชีของฌอนที่เปิดรับบริจาค ปรากฎว่าก็ยังโอนได้ปกติ แสดงว่าบัญชียังไม่ได้ถูกปิด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าเงินบริจาคอาจจะมากกว่า 8 แสนตามที่ชี้แจงหรือไม่

ทนายรณรงค์ ยังระบุด้วยว่า ดูจากพฤติกรรมที่ออกมาชี้แจงว่าได้นำเงินส่วนหนึ่งไปทำคลิปวิดีโอ และโปรโมทเนื้อหาในเพจตัวเอง รวมถึงนำเงินไปใช้เรื่อง โควิด-19 โดยที่ไม่ได้บอกประชาชนไว้แต่แรก ถือเป็นการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 และมาตรา 343 รวมถึงผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล : pptvhd36 ,  ทนายคู่ใจ