ไฟเขียวให้ชาวต่างชาติ 6 กลุ่ม เข้าไทยได้วันละ 200 คนต่อวัน!

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงหลังการประชุม ศบค. ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่มีมติอนุมัติให้เปิดจุดผ่านแดนเพื่อขนส่งสินค้าเพิ่มเติม จำนวน 28 แห่ง ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งส่วนที่เปิดเพิ่มมี 9 แห่ง ในจ.หนองคาย เลย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย จันทบุรี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี นอกจากนี้ ในมาตรการผ่อนคลาย ระยะที่ 5 นั้น จะเพิ่มจำนวนคนที่ต้องการจะเข้าราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอขอเพิ่มชาวต่างชาติ 6 กลุ่มให้ได้รับอนุญาตเข้าประเทศไทย

ได้แก่

1.คู่สมรสและบุตรของผู้มีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ทำงานในราชอาณาจักร

2.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร

3.คู่สมรสต่างชาติและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ที่มีสัญชาติไทย

4.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยที่จำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตาม ซึ่งเน้นย้ำว่าเป็นการรักษาเฉพาะบางโรค บางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงผู้เข้ามาทำศัลยกรรม และต้องไม่ใช่ผู้ป่วยโรคโควิด-19

5.นักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติ และผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว

6.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษกับประเทศเป้าหมาย อาทิ แขกของรัฐบาล นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค นักลงทุน โดยโควตาที่กำหนดสำหรับคนกลุ่มนี้จะต้องสอดคล้องจำนวนสถานที่กักกันทางเลือกสำหรับผู้ที่มาจากต่างประเทศ และยินยอมเสียค่าใช้จ่ายเอง (Alternative State Quarantine) ทั้งนี้ในขั้นต้นอาจกำหนดจำนวนคนรวม 200 คนต่อวัน

ไฟเขียวให้ชาวต่างชาติ 6 กลุ่ม เข้าไทยได้วันละ 200 คนต่อวัน!

โดยมี 4 ประเทศ และ 1 เขตปกครองพิเศษที่อยู่ในการพิจาณาตอนนี้ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ซึ่งมีเกณฑ์การพิจารณา

ได้แก่ 1.ต้องเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อไทย

2.ควบคุมการระบาดของโรคได้ดีใกล้เคียงกับไทย

3.ต้องเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

4.มีความพร้อมและความสนใจทำความตกลงกับไทย สำหรับการเดินทางเข้า-ออกของชาวต่างชาติส่วนดังกล่าว

แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

1.นอร์มอล แทร็ก เป็นผู้ที่เข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในไทยเป็นระยะเวลานาน และต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่กักกันทางเลือกและยินยอมเสียค่าใช้จ่ายเอง

2.ฟาสต์ แทร็ก ซึ่งเป็นกรณีนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของไทย เดินทางเข้าระยะสั้น (ต่ำกว่า 14 วัน) โดยร่นระยะเวลาการกักตัว และต้องมีเงื่อนไขอย่างเข้มงวดมาก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แนวทางเร่งการดำเนินการให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาในไทย ได้แก่

กลุ่มที่ 1 ผู้ที่ได้รับการอนุมัติแล้วและยังรอการเดินทาง ให้เดินทางพร้อมกับคนไทยในเที่ยวบินพิเศษ

กลุ่มที่ 2 ผู้กำลังขออนุมัติการเดินทางเข้าไทย คือ 1.ผู้ที่มีใบอนุญาตทำงาน หรือใบ ตท.3 จากกระทรวงแรงงาน ใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สามารถขอหนังสือรับรองการเดินทางจากสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยโดยตรง โดยไม่ต้องขอรับผลการพิจารณาจากกระทรวงการต่างประเทศ 2.ให้กระทรวงแรงงานหรือบีโอไออนุมัติการออกเอกสารอนุญาตให้เข้ามาทำงานได้ 3.ให้สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (กพท.) อนุญาตให้เที่ยวบินขนส่งหรือเที่ยวบินพิเศษรับผู้ที่เข้าข่ายเดินทางเข้าไทยได้ 3.ให้คู่สมรสและบุตรของผู้เข้าข่ายเข้าประเทศได้

ขณะที่หลักเกณฑ์เบื้องต้นในการรองรับการเดินทางของแขกรัฐบาล ได้แก่ 1.เป็นคณะเล็กไม่เกิน 10 คน 2.เป็นการเดินทางระยะสั้น 3.มีการตรวจรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศต้นทางและเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย 4.ให้หน่วยราชการที่เป็นเจ้าภาพเชิญแขกระดับสูง พิจารณาจัดเจ้าหน้าที่ประจำคณะติดตามประกบคณะ 5.มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขและจากหน่วยงานความมั่นคงติดตามประจำคณะด้วย 6.ต้องจำกัดการเดินทางเฉพาะกำหนดการที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ห้ามคณะเดินทางไปในที่สาธารณะและห้ามใช้ขนส่งมวลชนในการเดินทาง