โควิด-19 ทำคนไทยเสี่ยงตกงาน 8.4 ล้านคน อัตราว่างงานใกล้เคียงปี 40

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงรายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาสหนึ่ง ปี 2563 จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แบ่งเป็น ผลกระทบต่อการจ้างงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าแรงงานมีความเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง 8.4 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงาน 3 กลุ่ม คือ แรงงานในภาคการท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน, แรงงานภาคอุตสาหกรรม 1.5 ล้าน และแรงงานในภาคบริการอื่นๆที่ไม่ใช่ภาคการท่องเที่ยว 4.4 ล้านคน

สศช.ประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และปัญหาภัยแล้ง จะส่งผลให้ในปี 2563 อัตราการว่างงานจะอยู่ในช่วง 3-4% หรือตลอดทั้งปีมีผู้ว่างงานราว 2 ล้านคน ถือเป็นระดับว่างงานใกล้เคียงกับวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 โดยยอมรับว่าในปีนี้จะมีคนตกงานมากกว่าทุกปี จากอัตราเฉลี่ยการว่างงานของไทยอยู่ที่ 1% หรือประมาณ 4 แสนคน

นายทศพร กล่าวว่า อัตราการว่างงานข้างต้น เป็นการประเมินภาพรวมที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2562 สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือในแต่ละปีมีแรงงานจบใหม่ เข้าสู่ตลาด 5.2 แสนคน ซึ่งในปีนี้อาจจะไม่มีตำแหน่งรองรับได้ทั้งหมด เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นสศช.หวังไว้ว่า พรก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทในส่วนของการฟื้นฟู 4 แสนล้านบาทจะมีส่วนมาช่วยในการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ไม่น้อยกว่า 2-3 แสนงาน

นอกจากนี้ที่น่าห่วงคือการออกนอกระบบการศึกษา ของกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี ไม่ได้เรียนต่อและไม่มีงานทำจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.2 ล้านคน จึงหวังว่าปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไข และการออก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จะมีช่วยสร้างงานให้คนกลุ่มนี้ด้วย.