‘นายกฯ’ รู้สึกทึ่ง! แถลงขอบคุณร่วมสู้วิกฤตโควิด-19
ในด้านสาธารณสุข ประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้ดีและรวดเร็ว หากเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศในโลก
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งวิกฤตที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ นั่นคือวิกฤตในเรื่องของการขาดรายได้ หาเลี้ยงปากท้องของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดการกับวิกฤตเรื่องปากท้อง ผมได้เดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวของผมเองในช่วง 2 ถึง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นสมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็กและคนทำมาหากินทั่วประเทศเป็นสมาคมที่ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้พบปะมาก่อน แต่ผมรู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น
วันนี้ ผมขอรายงานผลที่ได้จากการไปพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ มีหลายอย่างที่ผมได้สั่งการให้เกิดขึ้นแล้วและอีกหลายอย่างที่ผมตัดสินใจแล้วว่า จะผลักดันให้เกิดขึ้น
นอกจากนั้นผมอยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ หากท่านต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ท่านช่วยกันสั่งซื้อของ และใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา เนื่องจากกลุ่ม SME ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย
ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผมได้รับทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจ และในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ เมื่อทราบข้อเท็จจริง และพิจารณาเหตุผลต่างๆ แล้ว ผมเห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข ผมจึงได้สั่งการ และขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม
ประการที่ 7 จากที่ผมได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ผมทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งผมเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น ผมจึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ผมทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผมจะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และ ประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้เราได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริงๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้เราหาวิธีแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และรวดเร็ว
สุดท้ายนี้ ผมอยากพูดอีกเรื่องหนึ่งว่าการเดินทางไปพบปะสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผมได้พบกับบุคคลที่น่าประทับใจหลายท่าน ซึ่งผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทยของเรา สิ่งที่ผมอยากจะขอบคุณเป็นพิเศษก็คือการที่ท่านทั้งหลายไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ทุกท่านยังมีความห่วงใยต่อประเทศด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป