เปิดเส้นทางการเงิน ‘แม่ปุ๊ก’ พบเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้าน!! (คลิป)

กรณีตำรวจกองปราบปราม จับกุม น.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ในคดีฉ้อโกงนับ 10 ล้านบาท หลังโพสต์ขายสินค้าและรับบริจาคเงิน รักษาเด็กหญิงอมยิ้ม วัย 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด ก่อนเสียชีวิตปลายปีที่ผ่านมา จากนั้นเด็กชายอิ่มบุญ วัย 2 ขวบ ก็ป่วยเป็นโรคเดียวกัน แต่แพทย์พบพิรุธ ว่าอาจถูกสารเคมีกัดกร่อนทำลายอวัยวะ ขณะที่แม่ปุ๊ก ได้รับเงินบริจาคกว่า 20 ล้านบาท

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าในช่วง 1 ปี มีเงินโอนเข้าบัญชีมากว่า 10 ล้าน ใน 4 บัญชี โดย 3 บัญชีแรก เป็นของแม่แท้ๆ ของน้องอมยิ้ม จากข้อมูลของตำรวจ พบว่าหญิงรายนี้ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม เมื่อคลอดลูกจึงหาผู้อุปการะ กระทั่งแม่ปุ๊กรับไปดูแล และเพิ่งทราบว่าแม่ปุ๊ก นำชื่อของตนเองไปเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาค ส่วนอีก 1 บัญชี เป็นชื่อของแม่ปุ๊ก โดยพบว่าทั้ง 4 บัญชี มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

โดยหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบค่ารักษาพยาบาล กับเงินรับบริจาคว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

โดยมีการตั้งประเด็นข้อสงสัยทางคดีที่ต้องคลี่คลายให้หายเคลือบแคลงกว่า 20 ประเด็น โดยเฉพาะประเด็นสำคัญข้อสงสัยว่า ด.ช.อิ่มบุญ ที่ได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้วนั้นเป็นบุตรแท้ๆ ของ น.ส.นิษฐา จริงหรือไม่ แม้ว่าในใบสูติบัตรจะมีการยืนยันชัดเจนว่า น.ส.นิษฐา เป็นมารดาถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่เนื่องจากว่าในทางกฎหมายเกี่ยวกับการแจ้งเกิดบุตรนั้นยังมีช่องโหว่บางอย่างที่ทำให้บุคคลที่ไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริงของเด็กสามารถจดทะเบียนในการเป็นมารดาของเด็กได้ ซึ่งการจะพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงให้หายเคลือบแคลงข้อสงสัยได้นั้นจึงจำเป็นจะต้องทำการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของ น.ส.นิษฐา และ ด.ช.อิ่มบุญ ส่งไปตรวจพิสูจน์ทราบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์แล้ว โดยคาดว่าน่าจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่เจ้าพบ นายเปี๊ยก( นามสมมุติ) บิดาของ นส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก ซึ่งเจ้าตัวยินดีให้ข้อมูล โดยชี้แจงว่า เพิ่งมาทราบว่าแท้จริงแล้วน้องอมยิ้มไม่ใช่หลานแท้ๆ ของตน เมื่อ 3 วันก่อนตอนที่ตำรวจตรวจสอบและเป็นข่าว ส่วนน้องอิ่มบุญนั้น ยืนยันว่า เป็นบุตรของลูกสาวจริง แต่ที่ไม่ได้มีการฝากครรภ์เป็นเพราะว่าลูกสาวตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว ส่วนข้อสงสัยว่าลูกสาวตน มีการใช้น้ำยาเคมีไปผสมกับยาของโรงพยาบาล ให้น้องยิ้มและน้องอิ่มบุญรับประทาน นั้นแม้แพทย์บอกกับตนว่าเป็นสารเคมี ที่ตรวจพบเป็นลักษณะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ตนมองว่าสารเคมีต่างๆ ล้วนกลิ่นรุนแรง หากเด็กได้กลิ่นคงไม่ยอมกิน สำหรับอาการของน้องอิ่มบุญ พบแผลไหม้ที่ปาก เชื่อว่าเกิดจากการรักษาตัวที่โรพยาบาล ไม่เกี่ยวข้องกับที่บ้าน

อีกประเด็นที่หนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งทีมข่าวช่อง 3 ได้ตรวจสอบมา คือ เพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า แม่ปุ๊ก ดูเป็นคนปกติและดูรักลูก แต่สังเกตว่า เด็กทั้งสองคน มีอาการปวยโรคภูมิแพ้บอยครั้ง ซึ่งแม่ปุ๊กก็จะพาไปโรงพยาบาลเป็นประจำ นอกจากนี้ทราบว่าแม่ปุ๊กเคยเรียนด้านเภสัชกรรมแต่ไม่ทราบว่าจบหรือไม่