เปิดใจคุณตาเจ้าของ ‘เตี้ย มช.’ ชี้เหตุไปอยู่ มช.
ล่าสุดวันที่ 21 พ.ค. จากการตรวจสอบทราบว่าเจ้าของพี่เตี้ยที่แท้จริงคือ นายสมศักดิ์ ไชยวงค์ อายุ 72 ปี อดีตเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ย่านชุมชนเจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเปิดเผยว่า "เตี้ย มช." เป็นสุนัขของตนและครอบครัว ที่บ้านตั้งชื่อว่า "ช้าง" เกิดมาพร้อมกับพี่น้องท้องเดียวกันรวม 5 ตัว เมื่อประมาณเดือน ก.พ.2555 จากแม่ที่ชื่อ "ถุงเงิน" ที่ปัจจุบันอายุประมาณ 12 ปี และยังมีชีวิตอยู่ที่บ้าน พร้อมกับน้องของ "เตี้ย มช." อีก 2 ตัว
อย่างไรก็ตามตลอดช่วงเวลาที่ "เตี้ย มช." ใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ตนมักจะแวะเวียนไปเที่ยวหาอยู่เสมอ เพราะปกติในช่วงเช้าของทุกวันจะออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยานขึ้นดอยสุเทพ และขากลับจะขี่เข้าไปหาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วงแรกพบว่า "เตี้ย มช." มักจะนอนอยู่บริเวณศาลาธรรม จนต่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่ภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ เป็นหลัก โดยมีนักศึกษาเอ็นดูรักใคร่ให้อาหารกินและดูแลอย่างดี
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ บอกอีกว่า ตอนแรกไม่คิดว่า "เตี้ย มช." จะกลายเป็นสุนัขชื่อดังที่มีคนรู้จักและรักใคร่มากมายเช่นนี้ จนครั้งหนึ่งในช่วงที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดงานประเพณีรับน้องขึ้นดอย เห็น "เตี้ย มช." วิ่งขึ้นดอยกับนักศึกษาและกลายเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งดีใจด้วยกับ "เตี้ย มช." ที่มีคนรู้จักและรักใคร่มากมายเช่นนั้น
สำหรับการตายของ "เตี้ย มช." นั้น นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อทราบข่าวครั้งแรกรู้สึกตกใจและเสียใจอย่างมาก แม้จะไม่ได้เลี้ยงดู "เตี้ย มช."อยู่ที่บ้าน แต่ตนยังรักใคร่ผูกพันในฐานะเจ้าของอยู่ดี เพราะเห็นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ลืมตาดูโลก และทุกวันนี้ "ถุงเงิน" แม่ของ "เตี้ย มช." ก็ยังอยู่ที่บ้านของตน พร้อมกับน้องอีก 2 ตัว อย่างไรก็ตามยิ่งรู้สึกสะเทือนใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อทราบว่ามีความเป็นไปได้ที่ "เตี้ย มช." อาจจะถูกทารุณกรรมหรือถูกฆ่าให้ตาย
ซึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเกินไป และอยากจะถามคนที่ทำเช่นนั้นได้อย่างไรกับ "เตี้ย มช." ที่เป็นมิตรกับทุกคนและไม่มีทางสู้ โดยจากเดิมที่ไม่เคยคิดว่าจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ เมื่อได้รับการติดต่อประสานงานจากทางมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องสงสัย จึงพร้อมที่จะแสดงตัว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ "เตี้ย มช." โดยในส่วนของการดำเนินการตามกฎหมายนั้น จะมอบหมายให้ทางมูลนิธิฯ เป็นตัวแทนดำเนินการให้จนถึงที่สุด เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ