เด็กวัย14 ร้องทนายชื่อดัง แม่ถูกรถชนพิการ ถูกประกันภัยเบี้ยวค่ารักษา
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เด็กวัย14 ร้องทนายชื่อดัง แม่ถูกรถชนพิการ ถูกประกันภัยเบี้ยวค่ารักษา
ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลืออ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ด.ช.ภูริภัทณ์ หรือน้องหมีพลู ศรีทองคำ อายุ 14 ปี พร้อมด้วยนางสาวศศิธร ศรีทองคำ อายุ 21 ปี สองพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 ต.วังน้ำเย็น อ.เมือง จ.นครปฐม เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดกับทนายคนดัง หลังจากน้องหมีพลู ได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือโดยมีใจความว่า “แม่ผมโดนรถชนวันที่ 31 ส.ค.62 มีอาการคือหัวไหล่หลุด แขนหัก,ก้านคอร้าว, และเดินไม่ได้ แล้วคนชนก็มาเยี่ยม วันแรกที่ชนได้ให้เงินสดมาจำนวน 5,000 บาท และอีก 1 เดือนครึ่ง นัดเจรจาที่โรงพัก
โดยทางคู่กรณีโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้บริษัทประกันภัยชดใช้ ซึ่งทางประกันก็ไม่ตอบตกลง และไม่มีท่าทีว่าจะรับผิดชอบแต่อย่างใด จนกระทั่งแม่ไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งหมอเเจ้งว่าอาการของแม่หนักมาก แขนแม่ไม่มีแรงหัวไหล่รีบติดเเขน,ขารีบ อาจจะรักษาไม่หาย ต้องใช้เวลา 2 หรือ3 ปี แต่ถึงแม้จะหาย ก็อาจจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือไม่ก็อาจจะพิการ ต้องใช้ระยะเวลาในการักษาค่อนข้างที่จะนานพอสมควร
โดยหมอระบุในใบรับรองแพทย์ว่าให้แม่หยุดพักผ่อนเป็นเวลา 1 ปี หลังจากเกิดเหตุแม่ต้องออกจากงาน พ่อก็ต้องหยุดงานมาดูแลแม่ ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ตนกับพี่สาวต้องหยุดเรียนหนังสือ ทางคู่กรณีไม่เคยมาดูแลเลย อีกทั้งเงินที่บ้านก็ไม่มีจะใช้ พวกเราลำบากมากจนพ่อต้องกลับไปทำงานที่เดิม แม่เลยให้ตำรวจทำเรื่อง ฟ้องร้องทางคนชนวันที่ทำสำนวนส่งคือวันที่ 8/1/63 จนถึงตอนนี้ 8 เดือน แล้วคดีก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน พอโทรถามตำรวจเขาก็ผัดไปผัดมาตลอด ทุกวันนี้แม่ต้องไปหาหมอเป็นประจำ โดยใช้สิทธิ์การรักษาของบัตรประกันสังคม
น้องหมีพลู ได้บรรยายความอยุติธรรม ของสิ่งที่ได้รับในจดหมายอีกว่า
ก่อนหน้านี้แม่ไม่เคยเป็นหนี้สินแต่ตอนนี้แม่ต้องเป็นหนี้สินเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วที่ดินก็กำลังจะโดนยึด พี่สาวกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ส่วนผมกำลังจะขึ้น ม. 3 ครับ แล้วแม่ก็มาป่วย และพ่อก็มาทิ้งแม่และพวกเราไปอีก เงินพ่อก็ให้น้อยลง ซึ่งเดือนนี้พ่อบอกว่าจะไม่ส่งเงินมาให้พวกหนูกับแม่แล้ว โทรไปตามคดีกับร้อยเวรเจ้าของคดีก็เลื่อนนัดผลัดวันเจราตลอด
ก่อนหน้านี้แม่ไม่เคยเป็นหนี้สินแต่ตอนนี้แม่ต้องเป็นหนี้สินเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วที่ดินก็กำลังจะโดนยึด พี่สาวกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ส่วนผมกำลังจะขึ้น ม. 3 ครับ แล้วแม่ก็มาป่วย และพ่อก็มาทิ้งแม่และพวกเราไปอีก เงินพ่อก็ให้น้อยลง ซึ่งเดือนนี้พ่อบอกว่าจะไม่ส่งเงินมาให้พวกหนูกับแม่แล้ว โทรไปตามคดีกับร้อยเวรเจ้าของคดีก็เลื่อนนัดผลัดวันเจราตลอด
น้องหมีพลู ยังกล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ที่พึ่งสุดท้ายของครอบครัวตนคือทนายรณณรงค์ อยากให้ทนายช่วยครอบครัวเราด้วยครับ ตนเห็นแม่พยายามแขวนคอฆ่าตัวตายมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกแม่ใช้ผ้าปูที่นอนม้วนเป็นเกลียวพยายามแขวนคอตัวเองกับขื่อตนเห็นเลยรีบร้องว่าแม่อย่าทำๆ ครั้งที่สองแม่ก็ใช้เชือกพยายามผูกคอตนเองกับราวบันได ตนก็เข้ามาห้ามแม่ก็บ่นอยากตายๆ ตนเห็นแม่ร้องไห้ทุกคืนตนก็ร้องไห้ไปด้วย พี่สาวคือพี่แตงโม ที่เรียนอยูปี 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน คณะวิศวะ ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงาน ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำที่ไหนเพราะทุกที่ปิดกิจการกันแทบทุกร้าน
ขณะที่ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เด็ก ม.3 ชื่อว่าน้องหมีพลู มาร้องเรียนคดีที่แม่ถูกรถชนที่จังหวัดนครปฐม ไม่มีความคืบหน้า และประกันบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ มีการทำบันทึกไว้วันที่ 10 ตุลาคม 62 เวลาผ่านมา เกือบ 8 เดือนแล้ว ยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวยา ให้กับครอบครัวของน้องหมีพลู จนกระทั่งน้องมาพบกับตนและเเจ้งว่าแม่กำลังจะพยายามฆ่าตัวตาย น้องหมีพลูจึงพยายามติดต่อเข้ามาทางเพจ และในวันพรุ่งนี้ (7พ.ค.63)ตนจะพาไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยเป็นประกันชั้น1 ไม่รับผิดชอบตามที่ตกลงกันไว้ คดีนี้มีอายุความ 1 ปี แต่ตอนนี้ผ่านไป 8 เดือนเเล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งยังมีเวลาในการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 4 เดือน
จึงต้องเร่งดำเนินการเพราะคดีจะหมออายุความ และจากการประสานไปทางสภ.เมืองนครปฐม ทราบว่าพนักงานสอบสวน ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบเข้าโรงพนยาบาล จึงต้องขอให้ทางผู้กำกับในพื้นที่เปลี่ยนพนักงานให้เพื่อความสะดวกเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของน้องหมีพลู เพราะน้องต้องเดินเรื่องเองทั้งที่ยังเป็นเด็กอายุแค่ 14 ปี อีกทั้งแม่ยังเดินไม่ได้ จึงนับว่าเป็นครอบครัวที่น่าสงสารอย่างมาก
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น