สธ.รีบเตือนไม่ได้ช่วยกันโควิด-19 หลังคนแห่ใส่แค่เฟซชิลด์อย่างเดียวตามรอยดารา

กรมอนามัย เตือน ดาราพิธีกร ใส่เฟซชิลด์จัดรายการเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 แนะ ต้องใส่คู่หน้ากาก ป้องกัน แนะคุมเข้มความสะอาด “จุดปรุง – แจกอาหาร” ลดเสี่ยงโควิด-19

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการตั้งโรงทาน แจกอาหารในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในบริเวณวัด ว่า ทางวัดจะต้องมีการควบคุมความไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค

วัตถุดิบและคนปรุงต้องเน้นความสะอาด สถานที่โล่งโปร่ง อาหารวางบนโต๊ะสูงจากพื้น 60 เซนติเมตร มีอุปกรณ์ปิดอาหาร อุปกรณ์หยิบจับ เลี่ยงการทำอาหารบูดง่าย เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ และเลี่ยงพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะโซเดียม เยอะเป็นต้น และเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ จัดระเบียบ เว้นระยะห่างรอรับของ 1-2 เมตร และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พบคนบางกลุ่มบางอาชีพ อาทิ นักแสดง พิธีกรรายการ แค่กระจังหน้าหรือ (Face Shield) สนทนากัน ถือว่าเพียงพอต่อการป้องกันโรคโควิด-19 หรือไม่ พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ไม่ควรทำเช่นนั้น การสวมเฟซชิลด์เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมกับหน้ากากอนามัยเท่านั้น ไม่สามารถจะใช้ทดแทนกันได้

อย่างเช่น บุคลากรสาธารณสุข ที่ต้องทำงานบนความเสี่ยงมากๆ ที่อาจจะเจอเหตุไม่คาดฝัน คนไอจาม ใส่หน้า หรือพนักงานขายของในร้านสะดวกซื้อ หรือคนที่ต้องเจอคนมากๆ ซึ่งต้องย้ำว่าการใช้เฟซชิลด์ต้องคู่กับหน้ากากอนามัย ทุกครั้ง การใส่เฟซชิลด์เพียงอย่างเดียว ก็เหมือนกับการไม่ใส่เครื่องป้องกันอะไรเลย เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19

เมื่อถามถึงการพิจารณาเปิดบางกิจการ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเปิดต้องมีเงื่อนไข เช่น ร้านอาหาร ตลาดสด เจ้าของสถานประกอบการ ต้องออกแนวทางเพื่อควบคุมโควิด -19 คือ

1. ความสะอาด

2. การจัดการสถานที่ต้องไม่แออัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความหนาแน่ และ การจำกัดเวลา เพื่อมากำหนดระยะห่าง ที่เหมาะสม อีกทั้งคนมาใช้บริการทั้งสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ทั้งนี้ร้านอาหารบางประเภทอาจจะยังไม่สามารถเปิดได้ เช่น ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ต้องไม่ให้ตักอาหารเอง เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องหารือกันถึงแนวทาง

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ส่วนร้านอาหารต้องจัดรูปแบบ การจัดวางโต๊ะ อาหารให้มีระยะห่าง ควบคุมเวลาการนั่งรับประทาน และ กำหนดระยะเวลาทำความสะอาด ผู้มาใช้บริการต้องผ่านการตรวจคัดกรองวัดก่อน เป็นระเบียบปฏิบัติ ส่วนในพื้นที่ที่ไม่ใช่สถานที่ปรับอากาศ เชื่อว่าควบคุมได้ไม่ยาก และแนวทาง ซึ่งยังต้องมีการหารือเพื่อกำหนดกรอบและแนวทางร่วมกัน