สนธิ แฉอีก! เบื้องหลัง ผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลค่าไฟแพง!

หลังจากที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาแฉการไฟฟ้าจนสร้างความฮือฮาไปแล้วรอบหนึ่ง ในการแฉเบื้องหลังไฟฟ้าที่มีราคาแพงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องนำเงินไปจ่ายเป็นค่าโบนัสพนักงานที่เรียกว่าก้อนใหญ่ ทำให้เกิดกระแสสังคมที่กระพรือรุนแรงออกไปในเรื่องนี้

โดยล่าสุดทางด้าน นายสนธิ ได้ออกมาพูดในเรื่องของประเด็นดังกล่าวอีกแล้วผ่านทางด้านของ Sondhitalk ถึงประเด็นที่ว่า เบื้องหลังค่าไฟแพง และอนาคตที่มืดมนของ 3 รัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า

โดยได้เล่าย้อนไปถึงครั้งเมื่อไฟฟ้าขาด รัฐบาลจึงให้เอกชนเข้ามาทำการไฟฟ้าที่เรียกว่า IPP โดยการทำงานก็คือให้ทางด้านของเอกชนผลิตไฟฟ้าและขายกลับมาให้ทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 

โดยทางด้านของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ได้อ้างว่าตนเองไม่ใช่คนควบคุมราคา แต่เป็นทางด้านของ กกพ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นผู้คิดค่าไฟ แต่แท้ที่จริงแล้วการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีอิทธิพลอย่างมากใน กกพ.

โดยส่วนใหญ่แล้วนักธุรกิจที่จะสร้างโรงไฟฟ้าได้นั้น จะต้องได้รับสัมปทาน ส่วนจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเส้นสายการเมือง โดยแต่ละโรงงานจะผลิตได้ไม่เท่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับสัมปทาน ส่วนรายได้ก็ต้องจ่ายให้กับเส้นสายการเมืองที่เป็นเรื่องปกติกันอยู่แล้ว เพราะทุกจุดในประเทศไทยต้องเสียเงิน

และเมื่อทางด้านของกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้ามาขายให้กับทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ไม่ว่าจะราคาหน่วยละเท่าไหร่ก็ตาม ทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็จะบวกเพื่อเข้าไป 1 บาท เพื่อเป็นกำไร

จุดเริ่มต้นของประเด็นอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ว่ากลุ่มธุรกิจจะผลิตไฟฟ้าได้เท่าไหร่ ก็เป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และกลุ่มธุรกิจต้องคุยกัน ในเรื่องของราคา แต่ด้วยเหตุที่ว่ากระทรวงพลังงานไปรับประกันโรงไฟฟ้าว่าจะต้องได้กำไรปีละ 12%

ดังนั้นโรงไฟฟ้าก็จะเอากำไรเป็นตัวตั้งแล้วบวกด้วยราคาพื้นฐาน ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะต้องเอามาคุย ซึ่งทำให้มีราคาที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากว่าอยากจะขายไฟฟ้าให้ประชาชนในราคาที่ถูกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะต้องเขี้ยว แต่ธรรมเนียมที่ผ่านมาเคยมีการคุยกันใต้โต๊ะ

จนราคาที่ออกมาเป็นราคาที่เอกชนพอใจ ไม่ใช่ประชาชนพอใจ 

แถมยังไม่จบเท่านั้น ยังมีเงื่อนไขเรื่องค่าพร้อมจ่าย ซึ่งเป็นตัวปัญหาก็คือ ถ้าเอกชนขายไฟฟ้าให้ฝ่ายผลิตทั้ง 100 หน่วย แล้วปรากฎว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตใช้ไปแค่ 20 หน่วย แต่ก็ต้องจ่ายทั้ง 100 หน่วย ไม่มีสิทธิจ่ายแค่ 20 หน่วยที่ใช้จริง จะใช้หรือไม่ใช้ก็ต้องจ่าย

ซึ่งทางด้านนายสนธิได้ตั้งคำถามว่า เจรจาแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งรับประกันกำไรความเสี่ยง แถมยังต้องเหมาจ่ายโดยที่ไม่ใช้งาน ทำให้ประชาชนต้องเป็นผู้รับผิดชอบในผลต่าง โดยเก็บค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น 

โดยประเด็นหลักๆแล้ว นายสนธิมองว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กำลังเสียผลประโยชน์มากมายมหาศาลให้กับเอกชนผู้ผลิตไฟฟ้า และยังมีประเด็นต่างๆที่น่าสนใจอีกมากมายในคลิปดังต่อไปนี้