หมอบอย ยกมือขอโทษฝ่ายปกครอง ยอมรับผิดกรณีผ่าเคอร์ฟิว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ หมอบอย ยกมือขอโทษฝ่ายปกครอง ยอมรับผิดกรณีผ่าเคอร์ฟิว
จบดราม่าหมอบอยผ่าเคอร์ฟิว สัตวแพทย์ยกมือขอโทษชาวราชสีห์ ยอมรับ“ผมผิดจริง”
จากกระแสดราม่าที่กระหึ่มโซเชียล “ #SAVE หมอบอย ” ตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์ระหว่างหมอบอย หรือนายสัตวแพทย์ธนู ลิมปพัฒนวณิชย์ หมอรักษาสัตว์ที่เป็นข่าวมาหลายครั้งในการให้ความช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระทำทารุณ กับทางกำนันผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ตั้งด่านปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจจุดสกัดผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดในช่วงเคอร์ฟิว พื้นที่ตำบลดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 6 เมษายน เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ เกือบ 5 ทุ่ม นายสัตวแพทย์ธนู (หมอบอย) ถูกจับดำเนินคดีเนื่องจากออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่มีหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่ให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน
ซึ่งต่อมาหมอบอยได้โพสต์ข้อความสั้นๆ 2 – 3 ประโยค ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบายความน้อยอกน้อยใจ ก่อนที่จะลบทิ้งภายใน 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ทันพวกที่เป็น fc ของหมอบอยเข้าไปเห็น แล้วก็มีการโพสต์ต่อเพื่อร้องขอความช่วยเหลือให้แก่หมอบอย จนกลายเป็นกระแสดราม่า มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ให้กำลังใจหมอบอย หรือบางคนก็อธิบายเหตุผลความจำเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง แต่ที่กลายเป็นประเด็นดราม่ารุนแรงก็เพราะ มีหลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมด่าว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและทำหน้าที่ตามมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ซึ่งต่อมาหมอบอยได้โพสต์ข้อความสั้นๆ 2 – 3 ประโยค ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบายความน้อยอกน้อยใจ ก่อนที่จะลบทิ้งภายใน 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ทันพวกที่เป็น fc ของหมอบอยเข้าไปเห็น แล้วก็มีการโพสต์ต่อเพื่อร้องขอความช่วยเหลือให้แก่หมอบอย จนกลายเป็นกระแสดราม่า มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ให้กำลังใจหมอบอย หรือบางคนก็อธิบายเหตุผลความจำเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง แต่ที่กลายเป็นประเด็นดราม่ารุนแรงก็เพราะ มีหลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมด่าว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและทำหน้าที่ตามมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ต่อมาวันนี้ (8 เมษายน 2563) เวลาประมาณ 16.00 น. นายทศพร ศรีวิไล กำนันตำบลดอนไก่ดี (กำนันแหนบทองคำ) พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ซึ่งเป็นชาวสายเลือดราชสีห์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้พร้อมใจกันมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กระทุ่มแบนเพื่อให้มีผลต่อการดำเนินคดีกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นอันเป็นเท็จก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันดังกล่าว ส่วนกรณีของหมอบอยนั้น ได้นัดหมายมาเจรจาเพื่อเคลียร์ปัญหาให้ยุติลงด้วยดี พร้อมขอให้หมอบอยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วยว่า จะไม่มีการโพสต์ข้อความที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ผู้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดอีก
นายสัตวแพทย์ธนู ลิมปพัฒนวณิชย์ หรือหมอบอย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า
ตนยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนผิดจริง เพราะคืนก่อนหน้าที่จะถูกจับนั้นตนก็ถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านนี้ตักเตือนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่คืนต่อมาก็ยังเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวอีก และยังไม่มีหลักฐานใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนไปรักษาสัตว์มาจนเกินเวลาที่กำหนด จึงนับเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามในสถานการณ์เช่นนี้ โดยตนก็ถูกศาลดำเนินคดีสั่งปรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่โพสต์ลงไปในเฟสบุ๊กส่วนตัวก็เพียงเพราะความคิดชั่ววูบที่เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร แต่ต่อมาภายใน 2 ชั่วโมง ก็ได้ลบโพสต์ทิ้ง จึงไม่คิดว่าจะมีกระแสดราม่าที่รุนแรงตามมาเช่นนี้ ซึ่งตนก็เสียใจที่คำพูด 2 – 3 ประโยค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ก็ต้องขอโทษทุกคน และฝากไปถึงผู้ที่เข้ามาให้กำลังใจตนเองนั้น ขอให้ลบโพสต์ทิ้งไป เพื่อจะได้ไม่มีใครเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางลบต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอีก รวมถึงผู้ที่โพสต์ข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ ด้วย ก็ขอให้ลบทิ้งและอย่าได้มีการแชร์เรื่องราวนี้อีก เพราะตนและครอบครัวอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย
ตนยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนผิดจริง เพราะคืนก่อนหน้าที่จะถูกจับนั้นตนก็ถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านนี้ตักเตือนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่คืนต่อมาก็ยังเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวอีก และยังไม่มีหลักฐานใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนไปรักษาสัตว์มาจนเกินเวลาที่กำหนด จึงนับเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามในสถานการณ์เช่นนี้ โดยตนก็ถูกศาลดำเนินคดีสั่งปรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่โพสต์ลงไปในเฟสบุ๊กส่วนตัวก็เพียงเพราะความคิดชั่ววูบที่เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร แต่ต่อมาภายใน 2 ชั่วโมง ก็ได้ลบโพสต์ทิ้ง จึงไม่คิดว่าจะมีกระแสดราม่าที่รุนแรงตามมาเช่นนี้ ซึ่งตนก็เสียใจที่คำพูด 2 – 3 ประโยค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ก็ต้องขอโทษทุกคน และฝากไปถึงผู้ที่เข้ามาให้กำลังใจตนเองนั้น ขอให้ลบโพสต์ทิ้งไป เพื่อจะได้ไม่มีใครเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางลบต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอีก รวมถึงผู้ที่โพสต์ข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ ด้วย ก็ขอให้ลบทิ้งและอย่าได้มีการแชร์เรื่องราวนี้อีก เพราะตนและครอบครัวอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย
ด้านนายทศพร ศรีวิไล กำนันตำบลดอนไก่ดี บอกว่า
การจับกุมหมอบอยนั้น เป็นการทำตามหน้าที่ในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียเกียรติ เสื่อมเสียชื่อเสียงของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกตนจะไม่ยอมให้เกิดความเสื่อมเสียแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ทำงานด้วยความตั้งใจและเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งยังทำเพื่อให้ทุกคนนั้นอยู่ในกฎระเบียบของบ้านเมืองในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้คุณหมอและทุกคนจะต้องเข้าใจดี หากคุณหมอมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวก็ขอให้แสดงหลักฐานที่ชัดเจนเท่านั้นเอง
สำหรับในส่วนของหมอบอยนั้น เมื่อได้มีการพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว พวกตนก็ขอให้หมอบอยขอโทษผ่านสื่อ อีกทั้งขอให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า จะไม่มีการโพสต์ข้อความที่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในลักษณะนี้อีก แต่ทั้งนี้ต่อไปหากหมอมีภารกิจจำเป็นในการรักษาสัตว์และต้องเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ก็ขอให้แสดงเอกสารหลักฐานด้วยไม่เช่นนั้นก็จะถูกจับได้อีก
ขณะที่ในส่วนของผู้ที่เอาข้อความไปแชร์ หรือไปโพสต์ข้อความต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างไม่รู้ข้อเท็จจริง ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่างๆนานา หากยังไม่หยุดการกระทำดังกล่าว ไม่ลบโพสต์ทิ้ง หรือยังคงมีการแชร์ออกไปอีก ตนในฐานะกำนัน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ก็จะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนบรรยากาศของการพบกันระหว่างนายสัตวแพทย์ธนู ลิมปพัฒนวณิชย์ หรือหมอบอย กับ นายทศพร ศรีวิไล กำนันตำบลดอนไก่ดี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนัน ที่บริเวณหน้า สภ.กระทุ่มแบนนั้น แม้ตอนแรกจะค่อนข้างตรึงเครียดไปบ้าง แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันและหมอบอยได้ยกมือไหว้กล่าวคำขอโทษทุกคน ก็ทำให้เรื่องคาใจของทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยดี คงเหลือแต่พวกที่แสดงความคิดเห็นในเชิงลบ หมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ปฏิบัติงานตั้งจุดตรวจจุดสกัด ซึ่งทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ นั้นได้เก็บข้อมูลไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วรอวันแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น