ฟังชัดๆ เหตุใด “ลำปาง” ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ COVID-19

วันนี้ (31 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันนี้มีการสรุปสถานการณ์ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า มีผู้ป่วยขึ้น 127 คน รวมตัวเลขสะสม 1,651คน และเสียชีวิตรวม 10 คน ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน โดยจำนวนนี้มีรายงาน 61 จังหวัดมีผู้ป่วยแล้ว

ขณะที่อีก 16 จังหวัดที่เหลือยังไม่มีรายงานผู้ป่วย ได้แก่ ลำปาง น่าน กำแพงเพชร ชัยนาท อ่างทอง พิจิตร อ่างทอง สิงห์บุรี สมุทร สงคราม บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ตราด ระนอง พังงา สตูล

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เพจ:กลุ่มข่าวจาวเจียงฮาย News V.2 ได้นำคลิปบทสัมภาษณ์ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง เกี่ยวกับมาตรการเพื่อสกัดโรคนี้ โดยระบุว่า ผมว่าทุกคนทำหมด ทุกหน่วยงานทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดทำหมด แต่ในการทำ และปฏิบัติของเราเชือว่าวิธีถูกต้องเร็วพอ และป้องกัน

"ทีมงานเราทำการบ้านตั้งแต่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา หรือ 2 เดือนก่อน คำถามว่าทำไมวันนี้ เพราะเป็นวันที่เมืองอู่ฮั่น ของจีน ปิดเมือง เราตกใจและว่าจะมาถึงไทยหรือไม่"

และวันนั้น จังหวัดคุยกับนอกรอบว่าโรคนี้เป็นอย่างไร น่ากลัวแค่ไหนโดยให้ติดตามจากอู่อั่น และ 2 เดือนที่เราติดตามมา พบว่าสิ่งที่วิกฤตที่สุดคือถ้ามีคนติดเชื้อจริง คือเครื่องช่วยหายใจ เพราะทั้งจังหวัดมีเพียง 40 เครื่อง และพยายามหามาเพิ่มอีก 30 เครื่อง และแม้แต่ชุดขาว พยายามสั่งมาใน 300 ชุดให้บุคลากรที่เสี่ยงป้องกัน เพราะเขาสำคัญที่สุด

ผู้ว่าฯลำปาง กล่าวอีกว่า วิธีคิดการทำงานเราวางแผนตั้งแต่ 23 ม.ค.แล้ว เรามีห้องNegative Pressure ทั้งจังหวัดแค่ 10 ห้อง เราสามารถปรับเตียงไอซียูรองรับ 50-60 เตียง และปรับห้องรองรับได้ 400 เคสแต่ตอนนี้ และยังไมมีสักเคส แต่มีการวางแผนไว้แล้ว

"หน้างานย่อมมีช่องโหว่แค่เราต้องจูนการทำงานทการทำงานทุกอย่างต้องมีแผน เมื่อทำแล้ว เราสั่งการไปแล้วเราจะต้องลงไปติดตามผลการปฎิบัติงานว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ต้องปรับไม่ให้มีจุดอ่อน"

นอกจากนี้ นายณรงศักดิ์ ยังระบุว่า แต่การบูรณาการทุกาคส่วนสมบูรณ์มาก และถึงจะคุย ถ้าจูนไม่ลงก็ปรับในพื้นที่ และพ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าใจเราเข้าไปในชุมชน และพี่น้องบอกว่าถ้ามีคนหนึ่งติดจริง เขายอมปิดทั้งหมู่บ้าน ตรงนำให้เราทำงานง่ายขึ้น

ฟังชัดๆ เหตุใด “ลำปาง” ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ COVID-19

และเมื่อวันที่ (29 มี.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่ามาตรการของจังหวัดที่สำเร็จจริงๆ ในขณะนี้ คือมาตรการชุมชน มี อสม.ชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทีมงานฝ่ายปกครอง สาธารณสุขจังหวัด และท้องถิ่นแต่ละแห่งที่เข้มแข็งมาก ในการแสกนคนที่กลับจากต่างประเทศทุกคน รวมกว่า 500 คน คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับคนที่มาจากต่างประเทศ บุคคลทางการแพทย์ อสม. ที่ไปวัดไข้กว่า 1,000 คน ทางจังหวัดได้ติดตามครบทุกคน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนที่เดินทางมาจากกทม.ไปยังภูมิลำเนาตนเอง ทางจังหวัดก็เฝ้าติดตามบุคคลที่เดินทางมาจากกทม. ชจำนวนกว่า 2,000 คน ก็ได้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และการตั้งด่านควบคุมของเจ้าหน้าที่ในการเดินทางเข้ามายังพื้นที่ช ทางจังหวัดได้คัดกรองอย่างละเอียด

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนอย่าตระหนกกับสถานการณ์มากเกินไป และเฝ้าดูบุคคลที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงเดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยสามารถแจ้งมาทางจังหวัดได้ รวมไปถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ หมั่นล้างมือบ่อยๆ และขอให้ยกเว้นการชุมนุมหรือกิจกรรมต่างๆ เช่นงานบวช งานบุญ งานแต่งควรเลื่อนออกไปก่อน หรือมีความจำเป็นจริงๆ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้นำมาตรการไปควบคุม

"ขณะนี้ลำปางยังไม่มีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทางจังหวัดได้เตรียมแผนไว้ 3 ชั้น"

ทั้งนี้เรียกว่า มาตรการสีเขียว หรือหากได้รับรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อ 1 คน ทางจังหวัดก็จะมีแผน เรียกว่า มาตรการสีเหลือง คืออาจจะต้องมีการกั้นชุมชนหมู่บ้านไม่ให้ใครเข้ามาในพื้นที่ หรือถ้ามีคนติด 5-10 คน จะมีมาตรการสีส้ม และสุดท้ายหากมีผู้ติดเชื้อมากๆ หรือมีผู้เสียชีวิต ต้องใช้มาตรการสีแดง และจะเข้มข้นและกดดันมาก ซึ่งหวังว่าจังหวัดลำปางจะไม่เป็นเช่นนั้น

ในการวางแผนมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้นนั้น เพื่อความเป็นอยู่และสุขภาพของพี่น้องชาวลำปางทุกคน ไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวเจ็บป่วย ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากให้คนในครอบครัวเจ็บป่วย ประชาชน

"ทุกคนในจังหวัดลำปางเป็นเหมือนญาติพี่น้องของผม ไม่อยากเห็นใครเจ็บป่วยแม้แต่คนเดียว หากช่วยกันเราอาจไม่มีผู้ติดเชื้อเลย หรืออาจจะมีน้อยมาก สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ความร่วมมือของพี่น้องชาวลำปางทุกคน"