กองทัพงัดโมเดล พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 48 ส่งทหารตั้งจุดตรวจสกัดโควิด

วันที่ 24 มี.ค. มีรายงานข่าวว่า กองทัพได้เตรียมแผนสำหรับรองรับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว โดยพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้แต่ละกองทัพภาคที่ 1-2-3 และ4 เตรียมแผนและจัดกำลังทหารในการที่จะออกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานร่วมกับตำรวจ อาทิ ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ควบคุมพื้นที่ พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมาย โดยใช้มาตรการขั้นสูงสุดเพื่อสกัดยับยั้งโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาด

โดยเบื้องต้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จะหยิบแผนโดยใช้โมเดลการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินปี 2548 มาเป็นโมเดลหลักในการควบคุมพื้นที่ สำหรับหน่วยที่จะคุมพื้นที่นั้นยึดตามพื้นที่รับผิดชอบเดิม คือ มณฑลทหารบกที่ 11(มทบ.11) จะคุมพื้นที่โซนในเมืองหลวงร่วมกับ สารวัตรทหาร(สห.)ของ 3 เหล่าทัพ และขณะที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ร.2รอ.) จะดูแลโซนภาคตะวันออกของ กทม. อาทิ มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก รังสิต สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กองพลที่ 9 รักษาพระองค์(พล.ร.9) รับผิดชอบโซนภาคตะวันตกของกทม. และปริมณฑล ได้แก่ ปิ่นเกล้า พระราม 2 จ.นนทบุรี ฝั่งตะวันตก บางแค พุทธมณฑล จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก(นปอ.) ดูแลพื้นที่ แจ้งวัฒนะ ดอนเมือง โซนใน จ.นนทบุรี -จ.ปทุมธานี

ส่วนกองทัพเรือ จะดูและพื้นที่ ในแถบที่ตั้งของหน่วยหรือพื้นที่ปิ่นเกล้า ขณที่กองทัพอากาศ จะร่วมปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดอนเมืองตามที่ตั้งของหน่วย ทอ.และสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหลัก

สำหรับการสัญจรในห้วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ผู้ที่ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ อาทิ ข้าราชการ สื่อมวลชน ฯลฯ เมื่อถึงจุดตรวจต้องแจ้ง ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ออกมามีภารกิจใด ต้องแจ้งตั้งแต่จุดเริ่ม ว่ามาจากไหนและจะไปตรงจุดไหน ให้เจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลเข้าระบบ หากเกิดการติดเชื้อจะได้ควบคุมพื้นที่ได้รวดเร็ว