พ่อเมืองสั่งชัตดาวน์ เชียงใหม่ สกัดไวรัสโควิด-19
นายเจริญฤทธิ์ เผยว่า วันนี้คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหารือและมติวันนี้ ให้สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด แออัด เบียดเสียดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถือปฎิบัติ โดยยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 1/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรงติดเชื้อไวรัสโคโนน่า (COVID-19) และออกประกาศฉบับที่ 2 ให้สถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถือปฏิบัติการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2563 เวลา 18 .00 น. ถึงวันที่ 13 เม.ย. 2563 เวลา 24 .00 น
โดยสถานที่ที่ต้องปิดตามประกาศดังกล่าว คือ สถานศึกษาทุกระดับ , สถานบันกวดวิชา , ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุมจัดแสดงนิทรรศการ , พื้นที่บางส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่ซุปเปอร์มาเก็ต หรือ สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ร้านขายยา สำนักงานและธนาคาร ส่วนร้านอาหารให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่น
ทั้งนี้ ตลาดให้เปิดเฉพาะการขายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ ให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่น , ร้านอาหารสัตว์ , ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ปิดตลาดถนนคนเดิน , ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และร้านอาหารเครื่องดื่มในโรงแรมนั้นให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม , ปิดพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม
ปิดสถานที่ประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร ,ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งทรงผม ร้านตัดแต่งทำเล็บ ร้านสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย คลินิกเสริมความงาม และสถานเสริมความงาม สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ลานสเก็ต หรือ โลเลอร์เบลด ปิดให้บริการเครื่องเล่นในอาคาร เครื่องเล่นภายนอกอาคาร เครื่องเล่นชั่วคราว สวนสนุก รวมถึงโซนอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็กในห้างสรรพสินค้า ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเทอร์เน็ต คาราโอเกะ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร ศูนย์พระเครื่อง พระบูชาและสนามพระเครื่อง พระบูชา สนามกอล์ฟ หรือสนามซ้อมกอล์ฟ สนามยิงปืน บ่อตกปลา บ่อตกกุ้ง ปิดสนามกีฬาประเภทที่มีการสัมผัสร่างกายหรือใช้อุปกรณ์กีฬาร่วมกัน ปิดสนามมวย ค่ายมวย โรงเรียนสอน ฝึกซ้อมศิลปะป้องกันตัว ปิดสนามชนไก่ สนามประลองไก่ สนามม้า หรือสนามหรือพื้นที่การจัดให้สัตว์ต่อสู้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ขณะที่นายแพทย์วรเชษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยสะสมเท่าเดิมคือ 12 ราย โดย 5 รายล่าสุดยืนยันผลติดเชื้อจากแลปทั้ง 2 แห่งแล้ว มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 11 ราย และหายกลับบ้านไปแล้ว 1 ราย คือนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนกรณีการเฝ้าระวังผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สะสมโรค มี 439 ราย กลับบ้านไปแล้ว 355 ราย ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 84 ราย (รวมผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 11 ราย)
ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายสัญชาติสวิสเซฮร์แลนด์ อายุ 66 ปี มีบ้านพักที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 18 มี.ค. จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - เชียงใหม่ ด้วยสายการบินไทยสไมล์ ไฟล์ WE 164 ถึงเวลา 16.55 น. โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีผู้สัมผัส เพราะรู้ตัวจึงให้ภรรยาขับรถมาจอดที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่และขับรถกลับบ้านพักเอง ก่อนจะมีอาการป่วยในวันที่ 19 มี.ค.มและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพนวดแผนไทย ทำงานย่านตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผู้สัมผัสมีคนในครอบครัว 4 คน และเพื่อนร่วมงานอีก 10 คน ผู้ป่วยรายนี้อยู่ระหว่างติดตามไทม์ไลน์ว่าได้รับเชื้อมาจากไหน ซึ่งก็มีผู้ที่ต้องติดตามเพื่อสอบสวนโรคหลายกลุ่ม
นายแพทย์ วรเชษฐ กล่าวอีกว่า ผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ได้โปรดดูแลและกักตัวเอง หากเริ่มมีอาการไข้ ไอ สามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาและสอบสวนโรค