บิ๊กตู่ เชิญแพทย์ระดมสมองฝ่าโควิด-19 หลังยอดพุ่งสูง
นายกฯ กล่าวก่อนการประชุมมอบนโยบายฯ ว่า การเดินทางมายังสธ.วันนี้ เพราะรัฐบาลให้ความกับปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับแรก จึงอยากมาฟังมุมมองทางการแพทย์ทั้งจากคนเก่าและใหม่ ว่าเราต้องมีการเตรียมการเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งจากสถิติการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่พบมีจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าวมากขึ้น แต่ตนคิดว่าการตรวจพบเชื้อผู้ป่วยรายใหม่เป็นสิ่งที่ดีกว่าการตรวจไม่พบ แต่สิ่งสำคัญคือขณะนี้สังคมเกิดความตื่นตระหนก แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นด้วยความร่วมมือของเราทุกคน วันนี้เราจึงแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนรัฐบาลที่มีมาตรการออกไปแล้ว อีกส่วนคือผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดที่ต้องทำงานให้เข้มงวดมากขึ้น โดยกระทรวงมหาดไทยจะต้องกำกับดูแล พร้อมรายงานผลดำเนินการกลับมาเพื่อสร้างความรู้แก่ประชาชน
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกฯ แถลงผลภายหลังการประชุมฯ ว่า วันนี้ได้มีการหารือร่วมกันทั้งในฝ่ายของรัฐบาล ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งปลัดสธ. อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ต่างๆ รวมไปถึงแพทย์ที่ทำงานภาคเอกชนถือเป็นการทำงานทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่ได้เป็นการประชุมกับส่วนราชการเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยตนต้องการให้ความเชื่อมั่นและได้รับฟังความเชื่อมั่นจากทั้งสองฝ่ายถือว่ารับได้ ตนจะนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องทำได้จริงในระยะต่อไป ซึ่งกระบวนการแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายและสถานการณ์และที่จะเกิดขึ้น วันนี้แม้จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ก็ต้องชื่นชม ระบบคัดกรองการติดตามของเราที่สามารถติดตามได้มากขึ้น เรามองตรงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องทราบว่าที่หาเจอนั้นมาจากไหน เริ่มการแพร่ระบาดจากตรงไหน เช่น สนามมวย หรืออาจจะเป็นบาร์ ผับต่างๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวต่อว่า ดังนั้น 14 วันนี้ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ซึ่งตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก ซึ่งมีการรายงานมายังตนทุกวัน ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบและติดตามสถานการณ์ และปรับมาตรการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น วันนี้เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี ซึ่งเดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น
เมื่อถามว่าหากเป็นคำสั่งหรือมติจากรัฐบาลจะเข้มแข็งและน่าเชื่อถือมากกว่าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หากผู้ว่าฯทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯ จะยากตรงไหน
เมื่อถามว่า ขณะนี้เรามีสัญญาณความเสี่ยงอะไรที่สถานการณ์จะยกไปสู่ระยะที่ 3 นายกฯ กล่าวว่า ให้ถามที่ประชุมฯ ถามหมอจะบริหารให้ตามข้อมูลของหมอ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีตำรวจติดตามรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมีข้อกังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ ปฎิเสธตอบคำถาม แต่ขอให้สื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ตามที่รัฐบาลได้แถลงในแต่ละวันด้วย
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการสังเกตอาการของครม.ทุกคนอยู่แล้ว และมีการคัดกรองทุกคน ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม โดยขณะนี้เห็นว่ายังไม่จำเป็นให้มีการประชุมครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน