ให้โอกาส ผีน้อย หนีกักกันมาพบภายใน 3 วัน!

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีกลุ่มแรงไทยที่เดินทางไปทำงานผิดกฎหมายยังประเทศเกาหลีใต้ เข้ามาพักยังอาคารรับรองสัตหีบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดแยก และเฝ้าดูอาการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เป็นเวลา 14 วัน ทั้งหมด 60 คน โดยแบ่งเป็นชาย 27 คน หญิง 33 คน ในจำนวนนี้พบมีหญิงตั้งครรภ์ 3 คน และ อีก2 คน ที่กลับมาจากเมืองแทกูและคย็องซัยเหนือ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ

สำหรับมาตรการดูแลแรงงานไทยทั้ง 60 คน ที่พักภายในอาคารรับรองสัตหีบนั้น ทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง โดยเริ่มมจากการลงทะเบียนข้อมูลและทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ รวมถึงวัดอุณหภูมิร่างกาย จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ทั้งการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อ ร่างกาย และ กระเป๋าเดินทางที่นำมาด้วย

อีกทั้งต้องล้างรองเท้าในกระบะฆ่าเชื้อ และการล้างมือ ต่อมาจะแบ่งกลุ่มแรงงานไทยออกเป็น ชาย หญิง และกลุ่มครอบครัว โดยให้ไปพักคนละอาคาร ซึ่งผู้หญิงจะพักที่อาคาร 3 ผู้ชายพักที่อาคาร 4 และกลุ่มครอบครัวพักที่อาคาร 5 ขณะที่ภายในอาคารพักแต่ละหลัง ทางเจ้าหน้าที่ได้มีคำแนะนำข้อปฏิบัติตน แปะภายในห้องพักทุกห้อง รวมถึงเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ และ QR CODE สำหรับให้กลุ่มแรงงานไทย ให้เข้าไปในกลุ่มไลน์เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ แจ้งอาการ หรือ ความต้องการอื่นๆ แทนการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปหา เนื่องจากข้อจำกัดของชุดเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอ รวมถึงได้ขอความร่วมมือ ทุกคน ห้ามออกจากห้องพักเด็ดขาด ตลอด 14 วันที่เฝ้าระวังอาการ ตั้งแต่วันที่ 8-21 มี.ค. นี้

นายสาธิต ยอมรับว่า มีแรงงานไทยบางกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และหลบหนีการกักตัวเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีแรงงานไทยหนีการกักตัวจำนวนประมาณ 70 คน โดยทางสาธารณสุขมีรายชื่อและข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่จะให้โอกาสแรงงานไทยที่หลบหนีการกักตัว โดยภายใน3 วันนี้ หากเข้ารายงานตัวด้วยตนเองที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามภูมิลำเนา จะถือว่าไม่มีความผิด แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกจังหวัดจะไปคุมตัวผู้มีรายชื่อทั้งหมดมาเข้าสู่กระบวนและดำเนินคดี ตาม พรบ.ควบคุมโรคฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท ทันที