ตะลึงเด็กฮิตขายตัวผ่านแช็ตไลน์ 02

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. น.ส.ธิติมา หมีปาน ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า


ทางศูนย์รับแจ้งจากผู้ปกครองว่ามีเด็กหายออกจากบ้าน เนื่องจากการเข้าไปใช้บริการแช็ตไลน์ทางโทรศัพท์ 02 จึงเก็บข้อมูลเพิ่มเติม โดยการทดลองเข้าใช้บริการ พบว่ามีทั้งการแอบแฝงขายบริการทางเพศของเด็กในระบบแช็ตไลน์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวและหมายเลขโทรศัพท์กันในระบบ เพื่อมาติดต่อกันภายนอก หลังจากนั้น มีการนัดเจอกัน และพบว่าเด็กถูกกระทำทางเพศ ขณะนี้มีเด็กผู้หญิงหายออกจากบ้านเนื่องจากถูกล่อลวงหลังจากรู้จักคนแปลกหน้าในแช็ตไลน์ 02 จำนวน 5 ราย อายุเฉลี่ยไม่เกิน 15 ปี

น.ส.ธิติมา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายของการให้บริการแช็ตไลน์ 02 คือกลุ่มเด็กและเยาวชน

โดยเฉพาะนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา เป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์ PCT มากที่สุด และด้วยอัตราค่าบริการที่ค่อนข้างถูกเพียงครั้งละ 3 บาท ทำให้เข้าถึงง่าย แม้กระทั่งการโทร.จากตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญเพียง 1 บาท สามารถใช้บริการได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบ One to One หรือตัวต่อตัว ซึ่งผู้ใช้บริการต้องฝากข้อความเสียงเพื่อแนะนำตัวเองก่อน ซึ่งพบว่ามีข้อความที่ไม่เหมาะสมจำนวนมาก

"มีผู้ใช้บริการอีกส่วนหนึ่งที่แอบแฝงขายบริการทางเพศ โดยมีทั้งเพศหญิงและเพศที่สาม จากการเก็บข้อมูลพบว่า เด็กหญิงที่เข้ามาขายบริการจะมีอายุประมาณ 13-18 ปี ส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมฟุ้งเฟ้อและติดเพื่อน สาเหตุที่เข้ามาขายบริการเนื่องจากต้องการนำเงินไปเที่ยวและซื้อของใช้" น.ส.ธิติมากล่าว


ด้าน น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า


การเปิดแช็ตไลน์ 02 ที่เน้นการพูดคุยของกลุ่มวัยรุ่นนั้นมีผลเสียมากกว่าประโยชน์ เพราะเด็กในวัยนี้ยังขาดภูมิคุ้มกัน เมื่อถูกคนแปลกหน้าชักจูงเด็กจึงหลงเชื่อทำตามอย่างขาดสติ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาสอดส่องดูแลการให้บริการแช็ตไลน์ 02 ไม่ใช่อ้างว่าการที่เด็กถูกล่อลวงเกิดจากปัญหาครอบครัว เพราะหากทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการโยนความผิดให้พ้นตัวมากกว่า ความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

พ.ต.ท.ธรรมนูญ มั่นคง รองผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า

การเปิดให้บริการแช็ตไลน์ 02 เป็นการเพิ่มช่องทางให้เด็กถูกล่อลวงมากขึ้น ถ้ามองให้ดีแทบจะไม่เห็นประโยชน์จากการให้บริการดังกล่าวเลย แต่ที่ยังสามารถเปิดให้บริการอย่างโจ่งแจ้งแบบทุกวันนี้ เป็นเพราะมีเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ไม่สามารถเลิกกิจการดังกล่าวได้และเกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากให้หน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการร่วมกันหาวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์