นายกฯ สั่งเข้มผีน้อยต้องกักตัว 14 วัน ไม่ให้กลับบ้าน!

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมมาตรการเร่งด่วน เพื่อรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจาก ไวรัส COVID-19 ว่า ที่ผ่านมาเน้นย้ำให้ตรวจสอบประชาชนที่เดินทางจากต่างประเทศ ผ่านการคัดกรองตามจุดเข้าเมืองให้ตรวจสอบคัดกรองตามมาตรฐาน โดยการเดินทางข้ามประเทศช่วงนี้ หากมีไข้จะไม่สามารถเดินทางได้ และหากเข้าประเทศไทยมามีไข้ จะต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรค ตามมาตรฐานเป็นระยะเวลา 14 วัน

ส่วนแรงงานไทยหนีไปทำงานที่เกาหลีใต้ผิดกฎหมาย หรือ ผีน้อยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ในพื้นที่ 2 เมือง แทกู คยองซัง จะต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมทันที 14 วัน โดยไม่ปล่อยให้กลับบ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ส่วนการใช้สถานที่ควบคุมนั้น ขณะนี้กำลังเตรียมการ พร้อมได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการข้อมูลโควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรี ประธานศูนย์ฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ และสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่ถือเป็นการยกระดับขึ้นมา

ขณะที่เรื่องหน้ากากอนามัยได้มอบหมายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามการจัดจำหน่าย โดยจะให้ตรวจสอบย้อนจากร้านค้าขึ้นไปถึงโรงงาน ว่าทำไมการผลิตถึง 1 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ไม่มีสินค้าถึงมือประชาชน และขาดหายไปกว่า 7-8 แสนชิ้น ว่าหลุดรอดออกไปช่องทางใดหรือส่งขายต่างประเทศ เพราะราคาต่างประเทศมีราคาสูง โดยเรื่องดังกล่าวจะเร่งตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันหลายปัญหา รวมถึงเรื่องการรับฟังความเห็น ที่ยืนยันว่า ตนเองรับฟังมาตลอดว่าจะทำอย่างไร วันนี้สิ่งสำคัญนอกจากโควิด-19 แล้ว ยังมีภัยแล้งและปัญหาอื่นๆ ซึ่งต้องมีการปรับงบประมาณบางส่วน เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและดูแลด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ขอเพียงเข้าใจรัฐบาลและขออย่าไปตัดตอนคำพูด จึงขอร้องสื่อและเตือนเรื่องการกระทำความผิดในโซเชียลมีเดียที่มีมากขึ้นในขณะนี้ ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงบิดเบือนโทษแรงถึง 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท ดังนั้น ขอให้ระวังด้วย หากทำผิดก็ต้องไปสู้คดี จึงไม่อยากให้เกิดกับใครทั้งสิ้นไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นคนไทย ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ตนไม่อยากให้ใครมีคดีทั้งสิ้น แต่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข

นายกฯสั่งมหาดไทยจัดหาหน้ากากอนามัยให้ประชาชนทั่วประเทศ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยบูรณการทุกภาคส่วนจัดหาหน้ากากทางเลือกให้ประชาชนใช้ป้องกันตัวเอง จึงได้สั่งการให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศจัดประชุมครูเพื่อเป็นวิทยากร โดยใช้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนดวัสดุทั้งหมด และไม่เกินวันที่ 7 มีนาคมจะเรียบร้อยทั้งหมด

ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณกลาง ประมาณ 200 ล้านบาท ใช้จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำหน้ากากแตกต่างทุกพื้นที่ เป้าหมายผลิตหน้ากากให้ประชาน 50 ล้านคนทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือจะเป็นประชาชนที่มีทางเลือกสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ จึงเชื่อว่าจะสามารถบรรเทาสถานการณ์การคาดแคลนหน้ากากได้ เพราะหน้ากากที่ผลิตขึ้นจะเป็นหน้ากากผ้าสามารถใช้ได้ทั้งประชาชนทั่วไปเพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันการแพร่เชื้อสำหรับผู้ป่วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตและใช้ได้ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีซึ่งไม่ใช่เมืองแทกู และเมืองคยองซันนั้นจะต้องกลับไปกักตัวที่ต่างจังหวัด เพราะทางท้องถิ่นจะสามารถหาสถานที่รองรับได้