ขนลุก!แก๊งรีไซเคิลหน้ากากอนามัย รับขายไปแล้วเกือบ 2 แสนชิ้น

จากกรณีตำรวจและฝ่ายปกครองของ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่าแบบไม่มีใบอนุญาต และมีการลักลอบนำเอาหน้ากากอนามัยมือสอง เข้ามาทำการซักล้างทำความสะอาด แล้วบรรจุใส่กล่อง ขายออกไปตามท้องตลาดตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผู้กำกับการ สภ.วิหารแดง ได้นั่งโต๊ะแถลงข่าวจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ น.ส.จินตนา นามวิชัย, น.ส.วีราภรณ์ ธงสันเทียะ, น.ส.พิมพ์วลัญช์ จำรัสศรี โดยมีพฤติการ คือ น.ส.จินตนา ได้ร่วมกันกับ น.ส.พิมพ์วลัญช์ รับซื้อหน้ากากอนามัยมือสอง จากร้านขายของเก่าอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จากนั้นก็ทำการคัดแยกหน้ากากอนามัยที่สภาพยังคงดีอยู่มาเข้าขั้นตอนการทำความสะอาด

จากนั้นได้ว่าจ้าง น.ส.วีราภรณ์ น้องสะใภ้ของ น.ส.จินตนา และกลุ่มเพื่อนของลูกชาย น.ส.จินตนา ให้มาทำการซักล้าง นำไปตากให้แห้ง แล้วเอามารีดให้เรียบ ก่อนจะนำไปบรรจุลงกล่อง แล้วนำไปจำหน่ายทั้งทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊กชื่อ “ใจว่าง วางไว้เพื่อใส่บุญ” และนำไปขายให้กลุ่มคนที่ต้องการโดยตรงในราคาชิ้นละ 3 บาทเท่านั้น โดยขายไปแล้วทั้งหมดเกือบ 200,000 ชิ้น

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ ยังระบุอีกว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.วิหารแดง ไปตามแกะรอย ว่าสิ้นค้าที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้จำหน่ายออกไปนั้น มีเส้นทางไปไหนยังไงบ้าง เพื่อที่จะดูว่ามีคนที่มีส่วนทำผิดอีกหรือไม่ หากพบก็จะไม่ละเว้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เบื้องต้นทราบว่าร้านที่ขายของเก่าที่ปล่อยหน้ากากอนามัยมือสอง มาให้ผู้ต้องหานั้น ก็ไม่ทราบว่า ผู้ต้องหาจะเอามาย้อมแมวขายแบบนี้ ส่วนคนที่ซื้อหน้ากากจากผู้ต้องหาไป ก็สามารถเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ สภ.วิหารแดงได้เช่นกัน

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ และให้การว่า ปกติก็ไม่ได้มีความคิดจะทำแบบนี้ แต่พอเห็นว่าช่วงนี้หน้ากากอนามัยมันขาดตลาดเพราะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็เลยเอาหน้ากากมือสองมาย้อมแมวขาย เพราะขายได้ง่าย โดยไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำมันผิดกฏหมาย และสำนึกผิดแล้ว

ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เบื้องต้นถูกดำเนินคดีใน 2 ข้อหา

1. ร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ เพื่อให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ

2. ร่วมกันประกอบอาชีพค้าของเก่า โดยไม่ได้รับอนุญาต

คาดว่าตำรวจจะนำทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสระบุรีในวันพรุ่งนี้

ด้าน นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง เปิดเผยว่า

จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้ไม่ไม่มีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจค้าของเก่า และไม่มีใบอนุญาตในการนำเข้าหน้ากากอนามัยจากที่ใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเท่ากับว่า ผู้ต้องหาแอบลักลอบทำกันเองโดยคิดว่าจะรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นอยู่ดี หลังจากนี้จะตั้งทีมงานขึ้นมา นำโดยปลัดอำเภอวิหารแดง เพื่อออกไปตรวจสอบตามท้องที่ เพื่อป้องกัน การลักลอบดำเนินธุรกิจแบบนี้ และฝากไปยังผู้ประกอบการขายของเก่า ว่าไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะสุดท้ายก็ต้องติดคุก.