เปิดเรตติ้งรายการข่าว เหตุกราดยิงโคราช พบยอดพุ่ง แม้โดนประณาม “สื่อไร้จรรยาบรรณ”
จากกรณีเหตุ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดค่ายสุธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ใช้อาวุธปืนสงครามยิงนายทหารผู้บังคับบัญชา จากนั้นได้หลบหนี และกราดยิงใส่ประชาชนในเมืองโคราช และได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทอมินอล 21 โคราช ตั้งแต่ค่ำวันที่ 8 ก.พ. 63 และกราดยิงคนในห้างเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ก่อนจะโดนเจ้าหน้าที่วิสามัญในเวลาต่อมา
และอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึง และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กับการทำงาน การอยากได้ข่าวของสื่อหลายๆ สำนัก เป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก และเป็นเหตุในหลายๆ เหตุการณ์ ที่คนร้ายรู้ตัวและเคลื่อนไหวได้ทัน จนเกิดเสียงตามมาว่า จรรยาบรรณของสื่อ และหน้าที่ที่ถูกต้องอยู่ตรงไหน
ล่าสุดมีการเปิดเผยตัวเลขเรตติ้งรายการข่าว วันที่ 8 ก.พ. 2563 ช่วงเวลา 18.00-24.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์และสถานีโทรทัศน์แต่ละช่องจัดรายการพิเศษ พบว่า "ช่องวัน" มีเรตติ้งสูงสุด 3.628 ส่วนเรตติ้งต่ำที่สุด คือ ไทยพีบีเอส ด้วย 0.465
ขณะที่ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ต๊ะ นารากร ติยายน ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า " นี่ไง เรตติ้งทีวีคืนวันเสาร์ที่เกิดเหตุการณ์ Terminal 21 จากตัวเลขเรตติ้งแสดงให้เห็นว่า ทีวีช่องที่ถูกสังคมโซเชียลรุมประนามว่าเป็น #สื่อไร้จรรยาบรรณ ได้เรตติ้งจากการรายงานสดเหตุการณ์สูงกว่ารายการปกติกว่าเท่าตัว
คนดูชอบ สื่อก็ทำให้ดู ถ้าสื่อทำไม่ถูก คนต้องไม่ดู พูดเรื่องจริงอย่ามาด่ากันนะ จิตใจอ่อนแอ เดี๋ยวร้องไห้น้ำตาไหลนะเออ ขอบคุณเพจ เขวี้ยงรีโมท และ TV Digital Watch "
" "ความจริงอันโหดร้าย", "ปากว่าตาขยิบ", "สื่อ-เสื่อม", "สื่อไร้จรรยาบรรณ" , "คุณภาพสื่อสะท้อนคุณภาพสังคม" , "ไหน! ใครว่าจะแบน" ฯลฯ... คำพูดอีกมากมายที่เกิดขึ้นในโซเชี่ยล สุดท้ายมันก็วัดกันที่ปลายทาง ไม่ว่าระหว่างทางของการได้มามันจะน่าสรรเสริญหรือน่าก่นด่าขนานไหน เราก็วัดกันที่ "เรตติ้ง" อยู่ดี
คนหรือช่องที่เรตติ้งอันดับต้นๆได้ไปต่อ โฆษณาเข้าถล่มทลาย จะรายการ จะช่อง หรือจะตัวบุคคล ก็ได้รับทั้งเงินทั้งกล่องจากสังคมกันต่อไป เชื่อซิ!!! ไอ้ที่ด่าๆกันเนี่ย มันต้องมีได้รางวัลรายการข่าวดีเด่นปลายปีนี้ให้เห็น คอยดู... เชื่อไอ้เรืองได้
แล้วไงล่ะ?!! กี่คนคุณภาพ กี่สื่อน้ำดี ที่ต้องหลุดออกจากวงการ ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ แล้วผันตัวเองไปทำอย่างอื่นเพื่อความอยู่รอด
จะเลือกแบบไหนมันก็อยู่ที่ผู้เสพด้วยนะ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แค่ ทวิตเตอร์ เฟสบุค หรือที่บางคนเหน็บว่า "เก่งแต่ในโซเชียล" นั้นแหละ หรือ จะทำให้เป็นที่ประจักษ์ ให้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆมันก็ต้องลงมือทำซะที จริงมั๊ย?
ส่วนเรา มันก็แค่นักข่าวตัวเล็กๆ ก็ทำได้เท่าที่สองมือหนึ่งสมองมีแรง และยังมีคนจ้างให้ได้อยู่ในวิชาชีพที่เรารัก อาชีพที่เรียกว่า"นักข่าว" มันอยู่ไม่ง่ายหรอกนะคะคุณ ที่จะอยู่ทั้งบนความรับผิดชอบของสังคม และหน้าที่การงาน ถ้าขาดกองกำลังจากคนเสพ ก็แค่บ่นไปตามสายลมอ่อนปนฝุ่นกรุงเทพ พร้อมภาพประกอบนิดหน่อย แค่นั้นนะ ไม่ได้หวังไรมาก แก่ล่ะ มันก็เป็นของมันเช่นนี้เอง"