กู้ภัยราชบุรี โต้พ่อเอ๋ แถลงจุดยืนทำงาน ยันไม่มีการตัดต่อคลิป

นายวิไล วงศ์ประเสริฐ ผู้จัดการหน่วยกู้ภัยราชบุรี เปิดเผยว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ราชบุรีทั้งจังหวัดมาประชุมเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาวันนี้ทราบเรื่องจริงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทำไมถึงพูดว่าชนแล้วหนี เพราะชนแล้วคุณไม่จอดดู แล้วบอกว่ารถติดคงไม่ใช่ถ้าชิดซ้ายแล้วลงจากรถมาดูได้ ถ้าสังคมไทยเป็นแบบนี้หมดจะทำอย่างไร ไม่เคยกลัว เพราะพูดแต่เรื่องจริงที่เป็นสิ่งไม่ตาย อยากให้อาสาทุกคนฟังไว้และทำให้ถูกต้อง ตามสโลแกนที่ว่า “ช่วยคนเจ็บ เก็บคนตาย”

วันนั้นมีเหตุอยู่ที่หนองโพ แล้วนำคนเจ็บมาส่งที่โรงพยาบาล และออกจากโรงพยาบาลได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุบริเวณสะพานข้ามคลองจึงรีบไปช่วยเหลือ มาถึงก็ทำแผลให้น้องคนเจ็บ พอทำแผลเสร็จน้องก็ลุกเดินออกไป แล้วเขาก็เดินไปที่รถ

โดยรถของตนมีชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์ตัดถ่าง มีเฝือก ถังดับเพลิง ทุกอย่างตามมาตรฐานที่รถทุกคันต้องมี และช่วงแรกตัวเองได้ประกาศขายอุปกรณ์ต่างๆที่มีอยู่ในรถกู้ภัยเพราะท้อใจ เนื่องจากทำงานมาตั้งแต่ปี 2536 รู้สึกท้อใจที่มีคนกล่าวหาว่าอุปกรณ์สกปรก ทั้งที่ผมก็ดูแลอุปกรณ์ให้มีความสะอาด ไม่อยากให้คนเจ็บต้องมาเจอผ้าก๊อตที่ไม่สะอาด

ส่วนอุปกรณ์ตัดถ่างมีมูลค่าประมาณ 2 แสนบาท ลงทุนซื้อเอง และมีพี่คนหนึ่งช่วยเหลือเอามาให้ใช้ด้วย ส่วนไซเรน กล่องเสียง ส่วนใหญ่จะซื้อเอง และมีคนซื้อให้บ้าง หลังเกิดเหตุการณ์มีผู้โทรมาให้กำลังใจ และโพสต์ข้อความมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งสนับสนุนทำให้มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้เปลี่ยนใจขอทำงานเพื่อสังคมต่อไป และไม่ขายอุปกรณ์ในรถกู้ภัยของตัวเองอีกแล้ว

นายประกิต ปรางจันทร์ อายุ 16 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยวันเกิดเหตุว่า ยืนยันว่าอุปกรณ์ที่ใช้ปฐมพยาบาลเป็นของใหม่ มีความสะอาด และไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดในการที่เจ้าหน้าที่มูลนิธินำไปส่งที่โรงพยาบาล และยืนยันว่า นายทวีไม่ได้จอดรถในช่วงแรกที่ชน