เปิดเหตุผล ทำไมศาลอุทธรณ์ถึงเพิ่มโทษ ”เปรมชัย”

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว การที่ นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน เดินทางเข้าไปตั้งแคมป์ในหน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง ใกล้กับลำห้วยประชิ ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่อนุญาต พร้อมกับมีการพกพาปืน มีด กล้องส่องสัตว์ เบ็ดตกปลา สวิงช้อนปลา รวมทั้งเครื่องครัวและเครื่องปรุง เข้าไปในพื้นที่ ไม่ใช่ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์ เพื่อท่องเที่ยว แต่มีแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการเข้าไปล่าสัตว์ ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าสงวน

อีกทั้งการเข้าตรวจสอบและจับกุมนายเปรมชัย กับพวก เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ยังมีการตรวจยึดซากไก่ฟ้าหลังเทา ได้ในแคมป์ที่พักและซากเสือดำห่างจากแคมป์ประมาณ 7 เมตร ขณะเดียวกันยังพบหลักฐานเป็นอุจจาระของนายเปรมชัย ในจุดเดียวกับที่พบปลอกกระสุนปืน ห่างจากแคมป์ประมาณ 750 เมตร ด้วย ทั้งหมดถือเป็นหลักฐานประกอบ ที่เชื่อได้ว่า นายเปรมชัย กับพวก มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันล่าสัตว์ป่า พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตป่าสงวน โดยใช้อาวุธที่นำเข้ามาก่อเหตุ

ที่ศาลชั้นต้นพิจารณาว่า นายเปรมชัย เป็นผู้สนับสนุนให้มีการล่าสัตว์ป่านั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้อง จึงพิพากษาแก้เพิ่มโทษจำเลยทั้ง 4 คน รวมทั้งให้เพิ่มข้อหาฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าครอบครอง คือ เสือดำ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วย

เปิดเหตุผล ทำไมศาลอุทธรณ์ถึงเพิ่มโทษ ”เปรมชัย”

ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา ทนายความของจำเลย ทั้ง 3 คน ที่ศาลไม่รอลงอาญา ได้ยื่นคำร้องพร้อม หลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 600,000 บาท เพื่อขอประกันตัวต่อศาล ซึ่งขณะนี้ศาลฎีกาอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของจำเลยทั้ง 3 คน

ทางด้าน นายวิเชียร ชิณวงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่วันนี้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา กล่าวภายหลังผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี เสือดำ ว่า น้อมรับคำพิพากษา ซึ่งเสือดำได้รับความยุติธรรม ก็พอใจแล้ว จากนั้น นายวิเชียร ได้เดินทางกลับไป