ทนายเดชา ไขปม 4 ข้อ เอ๋ ยังสู้คดีรุกป่า ทั้งที่หลักฐานชัดเจน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่าผลการรังวัดรอบ 2 ที่ดิน น.ส.ปารีณา ร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้ กับ ส.ป.ก. พบว่า มีการบุกรุก 46-1-40 ไร่ แยกเป็น อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เนื้อที่ 41-1-59 ไร่ และอยู่ในเขตป่าตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ2484 จำนวน 4-3-81 ไร่

ซึ่งต่างจากการรังวัดเมื่อ 24 พ.ย.รอบแรก ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ 31-0-12ไร่ และอยู่ในพื้นที่ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 อีก 15-2-36ไร่ รวม 46-2-48 ไร่สรุปคือ บุกรุกลดลงรวม 1 งาน แต่มีพื้นที่บุกรุกป่าสงวนเพิ่มขึ้น

อธิบดีกรมป่าไม้ยืนยันว่าการรังวัดครั้งนี้ มีมาตรฐานแม่นยำ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถแปลงได้ทุกอัตราส่วน โดยข้อสรุปที่ทั้ง 2 หน่วยงาน คือ กรมป่าไม้ และส.ป.ก.ยอมรับร่วมกัน

ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาอัตราส่วนที่ต่างกันของแผนที่ ไม่ได้มีส่วนทำให้การรังวัดคลาดเคลื่อน ขั้นตอนต่อไปหลังทราบผลรังรอบ 2 จะต้องแจ้งให้เจ้าของที่ดิน คือ น.ส.ปารีณารับทราบ

เนื่องจากเป็นผู้ยื่นคำร้องมาให้รังวัดใหม่ จากนั้นวันที่ 2 ธันวาคมนี้ จะมีการแถลงสรุปประเด็น และเข้าแจ้งความ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ในข้อหาบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทันที

ทนายเดชา ไขปม 4 ข้อ เอ๋ ยังสู้คดีรุกป่า ทั้งที่หลักฐานชัดเจน

ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 , มาตรา54 ห้ามมิให้ผู้ใด แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น และผิดตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ2507 มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใด ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้เก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ

ล่าสุด ทนายเดชา เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์ข้อความคลายสงสัย ว่าทำไม ปารีณา ถึงยังสู้คดีๆ ทั้งๆที่ภาพบ่งบอกชัดเจนว่ารุกป่า โดยระบุว่า... " #ทำไมเอ๋ปารีณายังสู้คดีต่อและฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ภาพถ่ายทางอากาศชัดเจนว่าบุกรุกป่า คดีอาญาทั่วไปผู้ต้องหาหรือจำเลยทำผิดจริง แต่ยังสู้คดีต่อมีเหตุผลอยู่ 3 ประการ

อันดับแรก
ไม่อยากติดคุกเร็วต้องการอยู่นอกคุกนานๆ

อันดับที่ 2
รอจังหวะ ที่จะเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมก่อนถึงศาลจะได้ไม่ต้องไปถึงศาล

อันดับที่ 3
ปล่อยเวลาไปให้คนลืมหลังจากนั้นก็ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้คดีไปถึงศาล และเรื่องสุดท้าย

อันดับที่ 4 คือ
อยู่ระหว่างเคลียร์ทรัพย์สินหนี้สินเตรียมตัว หนีออกนอกประเทศเพราะนักการเมืองของประเทศไทยเมื่อรู้ว่าจะต้องติดคุกก็หนีออกนอกประเทศทั้งนั้น #เห็นคลิปนี้ดีมีประโยชน์ช่วยแชร์ด้วยครับเจ้านาย