วีระ-อัจฉริยะ แท็กทีมลุยฟาร์มไก่เอ๋ ท้าลั่น! ไม่ผิดจะกราบตีน ‘สิระ’ ต่อหน้าคนทั้งประเทศ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ วีระ-อัจฉริยะ แท็กทีมลุยฟาร์มไก่เอ๋ ท้าลั่น! ไม่ผิดจะกราบตีน ‘สิระ’ ต่อหน้าคนทั้งประเทศ
วันที่ 28 พ.ย. ที่สภ.จอมบึง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.แมนสรวง กาญจนสะอาด รองผกก.สภ.จอมบึง เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ก่อนลงพื้นที่บริเวณหน้าฟาร์มไก่ของน.ส.ปารีณา ตั้งอยู่ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับที่ดินตามกฎหมายถ้าเป็นที่ป่าเสื่อมโทรม ก็ต้องเข้า ส.ป.ก. และแจกให้กับชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรทำกินคนละ 50 ไร่ แต่น.ส.ปารีณามีคุณสมบัติอะไร เฉพาะที่ฟาร์มไก่ที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ซึ่งวันนี้ที่มานั้นจะมาดูทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับ ส.ป.ก. เพราะทางป่าไม้ยืนยันแล้วว่าวันนี้ที่มานั้นไม่ได้มาตรวจสอบแล้ว คือมีการบุกรุกแน่นอน แต่เหลือของ ส.ป.ก.จะต้องมาตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ซึ่งการตรวจเพื่อต้องการให้ยืนยันว่า ตกลงแล้วน.ส.ปารีณาบุกรุกที่กี่ไร่แน่ ถ้าถามว่าไม่มีความผิดจะให้มาเหยียบหน้าตัวเองได้เลย ซึ่งถ้า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐบอกไม่ผิด "ผมจะกราบตีบสิระต่อหน้าคนทั้งประเทศเลย" แต่ถ้าผิดส.ส.กล้าลาออกจากการเป็นส.ส.หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่ามีความผิดอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่เกษตรกร มีการครอบครองฟาร์มไก่ ดีไม่ดีจะเอาพ่อมารับผิดแทนลูกบอกว่าไปแจ้งเท็จหรือไม่อย่างไร
"ในเอกสารพ่อไปซื้อที่ดินมาปี พ.ศ.2523 ซึ่งตามระเบียบจะนับ พ.ศ.2484 ถ้าไม่ได้เข้าปฏิรูป ส.ป.ก. ก็จะเป็นป่าสงวน แล้วเขาจะมาสู้อะไร แล้วเขาไปยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาต (ป.ป.ช.) เรื่องที่ดิน 1,700 ไร่ ไปอยู่ที่ไหน ถ้าขืนอุ้มรัฐบาลพัง คิดว่าท่านวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ท่านเป็นคนดีอยู่แล้ว คงจะไม่มาปกป้อง ต่อให้นายกฯด้วยก็พังทั้งรัฐบาลถ้าขืนมาช่วยกันอุ้มปารีณา กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมายฉบับเดียวกันที่ใช้กับชาวบ้าน นี่ถ้าเป็นตาสี ยายมา คงติดคุกไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้มารังวัดใหม่หรอก แต่นี่อภิสิทธิ์เหนือชนชั้น" นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า กรมป่าไม้จึงต้องมีหน้าที่พิทักษ์รักษาที่ดินของประเทศ ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป คนยากจนถูกจับกุมคุมขังทั่วประเทศ มีทั้งติดคุกทุกคน ถูกจับแล้วไม่มีโอกาสจะประกันตัวได้เลย แล้วน.ส.ปารีณาเป็นใคร เป็นเพียง ส.ส.คนหนึ่งแล้วมีอภิสิทธิ์อะไรเหนือชนชั้น ที่มาขอรังวัดใหม่ ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะขอรังวัดใหม่ แต่ตนถามว่าในประเทศไทยคนยากจนมีสิทธิ์หรือไม่ที่จะไปขอรังวัดใหม่ ไม่มีทาง
"ซึ่งทางป่าไม้หรือทางที่ดินก็จะไม่ทำให้ หรือทางส.ป.ก.จะไม่ทำให้อยู่แล้ว ซึ่งแปลงนี้ยืนยันว่าเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ น.ส.ปารีณาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาครอบครองตามกฎหมาย แม้กระทั่งพ่อของน.ส.ปารีณาก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะไม่ได้เป็นเกษตรกร ผมเชื่อว่าอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งผมรู้ประวัติว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง เชื่อว่าคงไม่กล้าบิดเบือน เพราะถ้าเขาบิดเบือนพวกผมก็จะต้องดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 อย่างที่นายวีระบอกว่า มีเสาไฟฟ้าแรงสูงเข้ามาฟาร์มไก่ตั้งแต่ปี 2545 ไม่มีคนรู้คนเห็นเป็นไปได้ยังไง มีการทำลายป่าไปเท่าไหร่แล้ว" นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับหลักฐานเด็ดนั้นก็คือ อธิบดีกรมป่าไม้เป็นคนพูดเองว่า น.ส.ปารีณาบุกรุกที่ดินจำนวน 46 ไร่ ยืนยันต่อหน้าสื่อมวลชนว่าที่ดินมีการบุกรุกแล้ว 46 ไร่ ไม่ว่าจะบุกรุกจำนวนเท่าไหร่ น.ส.ปารีณาก็มีความผิดแล้ว แต่ตอนนี้พยายามจะบอกว่าพ่อเป็นคนซื้อ ลูกไปแจ้ง ป.ป.ช.อันเป็นเท็จหรือไม่ และพยายามดูเรื่องอายุความ ก็จะสู้เรื่องอายุความกัน เป็นเทคนิคง่าย ๆ ของการเป็นกุนซือของการที่คนจะวางแผนอย่างนั้น
นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าเป็น ส.ป.ก. เพราะเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ไม่ได้ อำนาจในการตรวจสอบลงโทษนั้นยังเป็นไปตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 กับ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เท่านั้น การที่จะเอาผิดกับคนที่บุกรุกจะมีจำนวนกี่ไร่จะมีกฎหมายอยู่ 2 พระราชบัญญัตินี้เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ส.ป.ก.เลย ส่วนอายุความนั้นตราบใดที่ยังมีการบุกรุกครอบครองก็มีอายุความเอาผิดได้ตลอดเลย ถึงแม้จะสละการครอบครองออกไปก็ยังมีอายุความต่อไปอีก 15 ปีในการที่จะเอาผิด เป็นความผิดทางอาญาเท่านั้น
นายวีระ กล่าวอีกว่า แล้วเรื่องของน.ส.ปารีณา ทางรัฐมนตรีถึงกับลงมากำกับดูเอง แต่ทีชาวบ้านถูกป่าไม้จับ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ครอบครองที่เลย แค่ไปเช้าเย็นกลับ ไปหาของป่า เจอเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับถูกดำเนินคดี ไม่เห็นมีสิทธิพิเศษรอลงอาญา ศาลตัดสินจำคุกหมด ซึ่งที่ดินได้ถูกนำไปสร้างโรงเลี้ยงไก่กว่า 50 โรง แต่ป่าไม้ไม่เข้ามาตรวจสอบ ในเมื่อพื้นที่ติดกันเกิน 500 ไร่ ทำไมไม่รายงาน ถือว่าเข้าข่ายละเว้นเรียบร้อยแล้ว เพราะหลายปีแล้ว และจะพยายามเอาที่ของรัฐมาให้เป็น ส.ป.ก.อีก น.ส.ปารีณาครอบครองที่ดินเกิน 25 ไร่ โทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี ถูกปรับ 150,000 บาท "ผมท้าเลยว่าเลขา ส.ป.ก. หรืออธิบดีป่าไม้ถ้าผมพูดผิด ผมขอให้ดำเนินคดีกับผม ต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศเลย"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น