ศาลโคราชอนุมัติหมายจับ ประจักษ์ พร้อมพวกแก๊งลิขสิทธิ์ โทษอ่วมแยกรายกรณี
วันที่ 26 พ.ย. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำสั่ง จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปที่ สภ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อ ลุยกวาดล้างแก๊ง Bravo หรือแก๊งนายประจักษ์ โพธิผล ที่ล่อซื้อกระทงเด็กอายุ 15 ปี โดย พล.ต.อ.วิระชัย ไปที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแถลงต่อศาลขออำนาจศาลออกหมายจับด้วยตัวเอง
ต่อมา พล.ต.อ.วิระชัย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ช่วงนี้ช่วงค่ำตนได้เชิญผู้บริหารบริษัทเวอริเซ็ค ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายประจักษ์ 11 คนมาซักถามพร้อมกันทั้งหมด จนได้ความว่า นายประจักษ์ ปลอมแปลงเอกสารใบมอบอำนาจ ด้วยการปลอมลายเซ็น เป็นการเขียนหมึกทับลายเซ็นเดิม และเลขใบมอบอำนาจเป็นเลขที่ที่ใช้กับกรณีอื่น ขณะที่ใบมอบอำนาจฉบับที่ใช้ดำเนินคดีกรณี แมวกาฟิวส์และหมีริลัคคุมะ ปรากกฏว่าไม่ได้ออกจากบริษัท ดัวนั้น การแจ้งความจับกุมจึงเป็นการใช้เอกสารปลอม ซึ่งทางผู้บริหารบริษัท เวอริเซ็ค ก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายประจักษ์ต่อไป
นอกจากนายประจักษ์ ยังมีผู้ร่วมขบวนการ คือ นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร ซึ่งถูกจับดำเนินคดีในกรณีที่มหาสารคามในขณะนี้ และ น.ส.วนิสา ถินสุวรรณ์ ลูกสาวนายนัน ที่เป็นผู้ล่อซื้อ โดยแบ่งบทให้นายนัน เล่นบทโหดในการเจรจา ส่วนนายประจักษ์ จะรับบทพ่อพระ เจรจาให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน
ศาลได้ออกหมายจับทั้ง 3 คน โดยมีความผิดประกอบด้วย ข้อหา
1.ร่วมกันปลอมเอกสาร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ใช้เอกสารปลอมทำให้เกิดความเสียหาย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
3. แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
4. แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแก่พนักงานอัยการฯ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
5. กรรโชกทรัพย์ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คดีนี้ไม่ได้ทำเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา แต่ให้ตรวจสอบทั่วประเทศ คดีนี้เป็นแค่การเริ่มต้น จากนี้จะมีการขุดรากถอนโคนขบวนการนี้ทั้งหมด สำหรับความผิดของแก๊งนี้ "เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ เมื่อกระทำกี่ครั้งก็ต้องถูกดำเนินคดีตามนั้น นับครั้งเอามาคูณครับ"
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำวจภูธรภาค 3 สามารถติดตามจับกุมตัวนายประจักษ์ โพธิผล ได้ที่เขตจังหวัดขอนแก่น อยู่ระหว่างนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา