คาดมาตรการงบบัตรทอง ปีหน้า! ได้เพิ่มอีก 8 พันล้าน เหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้นเป็น 3,600 บาท
นางดวงตา กล่าวว่า ในส่วนของบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สิ่งที่เพิ่มใหม่ในปี 2563 อาทิ นำร่องบริการยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ HIV (ยา PrEP) การตรวจคัดกรองยีนส์ HLA เพื่อป้องกันอาการแพ้อย่างรุนแรง การคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 35 ปี วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก (Rota virus vaccine) และค่าชดเชยวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน MMR เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดในภาคใต้ ขณะที่ด้านบริการรักษา ได้เพิ่มการนำร่องบริการล้างไตผ่านเครื่องอัตโนมัติ เพิ่มยาบัญชี จ.(2) สำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระดับรุนแรงน้อยถึงปานกลาง นำร่องลดความแออัดในโรงพยาบาลด้วยการรับยาที่ร้านยา นำร่องการดูแลโรคหายาก (Rare disease) ส่วนด้านบริการฟื้นฟู สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือบริการดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงขยายไปยังทุกสิทธิ ทุกกลุ่มอายุ พร้อมปรับเพิ่มรายการจ่ายค่าอุปกรณ์และบริการฟื้นฟูโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ได้พยายามจัดสรรเงินให้เรียบง่าย เปลี่ยนแปลงน้อยและอิงของเดิมมากที่สุด เพื่อไม่ให้โรงพยาบาลสับสน ส่วนงบใหม่ๆ คือการเพิ่มสิทธิในการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าไม่ถึงหรือกลุ่มเปราะบาง สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากปี 2562 ในบริการผู้ป่วยนอกทั่วไป (OP) เช่น รวมบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยวิธี Fit Test (การตรวจหาลือดในอุจจาระ) ส่วนในบริการผู้ป่วยในทั่วไป (IP) เช่น ปรับอัตราจ่ายเบื้องต้นจาก 8,050 บาทต่อค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (adjRW) เป็น 8,250 บาทต่อค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (adjRW) พร้อมกับเพิ่มบริการผ่าตัดวันเดียวกลับ (ODS) จาก 12 รายการเป็น 24 รายการ และเพิ่มบริการผ่าตัดแผลเล็ก (MIS) ใน 3 โรค