แพทย์ยัน ซีสต์รังไข่ ไม่ใช่คุณไสย หลังพบเศษผม-ฟัน-เล็บข้างใน


แพทย์ยัน ซีสต์รังไข่ ไม่ใช่คุณไสย หลังพบเศษผม-ฟัน-เล็บข้างใน

กรณีสาวโพสต์เฟซบุ๊กหวังเตือนเป็นอุทาหรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงควรสำรวจตัวเอง และระมัดระวังอันตรายใกล้ตัวจากอาการปวดท้องประจำเดือน ที่อาจตรวจพบเจอก้อนเนื้องอกในมดลูกและรังไข่ ขนาด 6-8 ซม. ซึ่งมีขนาดโตขึ้นทุกขณะ เธอจึงตัดสินใจให้หมอผ่านำออกมา แต่กลับสร้างความตกตะลึงอย่างมาก เพราะข้างในพบทั้ง "ฟัน-ผม-เล็บ" ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ปัญญา ศักดิ์สง่าวงษ์ สูติ-นรีแพทย์ เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ รพ.เวชธานี อธิบายผ่าน คอลัมน์สุขภาพ-ความงาม ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ว่า การที่มีของเหลวลักษณะคล้ายน้ำมัน มีก้อนไขมัน มีเศษผม หนังศีรษะและฟันอยู่ภายในอวัยวะมนุษย์นั้นในทางการแพทย์ถือได้ว่าเป็นโรคอย่างหนึ่ง มีชื่อว่า "เดอร์มอยด์ซีสต์" ไม่ได้โดนคุณไสยหรืออาคมแต่อย่างใด

"เดอร์มอยด์ซีสต์" (Dermoid cyst หรือ Teratoma) ถือเป็น โรคถุงน้ำรังไข่ หรือ ซีสต์รังไข่ ชนิดหนึ่งจากรากศัพท์ Dermoid หรือ Derma แปลว่าผิวหนัง จึงเป็นที่มาของชื่อโรค ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจาก เนื้อเยื่อชั้นหนึ่งของร่างกายที่ตามปกติแล้วจะต้องเจริญไปเป็นเซลล์ที่ผิวหนัง แต่กลับเกิดการเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ แทนที่จะอยู่ภายนอกร่างกาย แต่กลับเข้าไปเจริญเติบโตในช่องท้องที่บริเวณรังไข่ จึงทำให้พบว่าภายในรังไข่ มีน้ำมันจากต่อมไขมัน เส้นผม หนังศีรษะ หรือแม้กระทั่งฟันอยู่ภายใน ซึ่งความผิดปกตินี้เกิดขึ้นในระยะแรก ๆ ของการเติบโตของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

"เคยผ่าตัดเลาะซีสต์ที่รังไข่โดยวิธีส่องกล้องให้กับคนไข้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง หลังผ่าตัดผมก็โชว์รูปถ่ายถุงน้ำรังไข่ที่ผ่าตัดเลาะออกมาให้คนไข้และญาติ ๆ ดู และอธิบายถึงสิ่งที่พบในห้องผ่าตัดไปว่าซีสต์รังไข่ของคนไข้นั้นขนาดราว ๆ 8 ซม. มีของเหลวลักษณะคล้ายน้ำมัน มีก้อนไขมัน มีเศษผม หนังศรีษะ และฟัน อยู่ภายใน คนไข้และญาติมองหน้ากันแสดงสีหน้าประหลาดใจ แล้วคนไข้ก็ถามผมออกมาว่า หมอ ๆ อย่างนี้แสดงว่าหนูโดนคุณไสยใช่ไหม" สูติ-นรีแพทย์ เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ระบุ 

นพ.ปัญญา กล่าวต่อว่า เดอร์มอยด์ซีสต์ ไม่ใช่เนื้องอกร้ายแรงและมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้น้อยมาก ตามปกติคนไข้ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีอาการ แต่ก็สามารถทำให้ปวดท้องรุนแรงได้เช่นกัน เนื่องจากถุงน้ำรังไข่ชนิดนี้มักจะไม่มีพังผืดมาเกาะ ทำให้เปลี่ยนตำแหน่งไปมาได้ง่ายภายในช่องท้องส่วนล่าง จึงมีโอกาสที่ขั้วของรังไข่จะเกิดการบิดหมุน อาจทำให้รังไข่ขาดเลือดไปเลี้ยง ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาอย่างเฉียบพลันได้ อีกทั้งเดอร์มอยด์ซีสต์นั้นก็ไม่ได้สัมพันธ์กับปัญหาภาวะมีบุตรยากโดยตรงแต่อย่างใด

สำหรับการรักษาจำเป็นต้องผ่าตัด เนื่องจากซีสต์รังไข่ชนิดนี้ไม่สามารถยุบหายได้เองและยังมีโอกาสที่จะโตขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณายาที่รับประทานแล้วขับซีสต์ออกมาได้เด็ดขาด อย่างไรก็ตามการผ่าตัดเพื่อรักษาสามารถผ่าตัดได้ทั้งแบบเปิดหน้าท้องและผ่าตัดส่องกล้องเพื่อเลาะเอาเฉพาะส่วนที่เป็นถุงน้ำออก เหลือไว้เฉพาะเนื้อรังไข่ส่วนที่ดี จึงแนะนำผู้ป่วยว่าไม่ควรตัดรังไข่ทิ้ง เพราะรังไข่มีหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงและผลิตฟองไข่เพื่อการมีบุตรในอนาคต ดังนั้นผู้ป่วยอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณายาขับซีสต์ออกมาได้อย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทางการแพทย์จะมีคำอธิบายถึงการพบเจอสิ่งแปลกปลอมในร่างกายมนุษย์ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดความผิดปกติต่อร่างกายอย่างไร ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกวิธีเพื่อผลดีต่อสุขภาพของเราเอง


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:15 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์