คุมตัว เสี่ยท็อป ฝากขัง แม่เป็นห่วงส่งยาเบาหวานให้เจ้าตัว

เมื่อเวลา08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้คุมตัว นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป อายุ 49 ปี ตามหมายจับระหว่างพิจารณาศาลแขวงพระนครเหนือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.8062/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ.9319/2559 ข้อหากระทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยนายธนณัฏฐ์ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ได้แต่เพียงยิ้มเท่านั้น ก่อนเดินขึ้นรถของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดเตรียมไว้ให้

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายธนณัฏ มาถึงหน้าศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก เสี่ยท็อป มีสีหน้าปกติยิ้มแย้ม พร้อมยืนยันว่า ความบริสุทธิ์ไม่ได้ได้ฉ้อโกงผู้เสียหายในคดีเช็ค โดยที่ผ่ามาได้คืนเงินให้ผู้เสียหายในคดีเช็คนี้หมดแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ได้ถอนแจ้งความ จึงทำให้ถูกจับกุม ขณะนี้ยังรอการพิจารณาคดีของศาลแขวงพระนครเหนือ

สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ ในวันที่ 29 พ.ค. 2557 นางสาว สุภาพรณ์ อัมภาพันธุ์กิจ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ในคดี ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น โดยนางสาวสุภาพรณ์ ได้รับการติดต่อจาก นาย ธนณัฏฐ์ สิริปิยพร เพื่อที่จะขอซื้อคลีนิคเสริมความงามชื่อไอซิสคลีนิคซึ่งนางสาวสุภาพรณ์เป็นเจ้าของ โดยพูดสร้างความน่าเชื่อถือ พูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ จนทำให้นางสาวสุภาพรณ์ตัดสินใจขายคลีนิคให้กับนายธนณัฏฐ์ฯ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท โดยที่นายธนณัฏฐ์ ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับนางสาวสุภาพรณ์ฯ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท แต่หลังจากที่นางสาวสุภาพรณ์ฯ นำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลังจากนั้นนายธนณัฏฐ์ได้นำชื่อคลีนิคไปใช้ในการแอบอ้าง หลอกลวงผู้อื่นในทางเสียหาย จนทำให้คลีนิคของนางสาวสุภาพรณ์ เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นางสาวสุภาพรณ์จึงต้องที่จะดำเนินคดีนายธนณัฏฐ์ให้ถึงที่สุดเพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว หลังจากที่ศาลได้นัดฟังคำพิพากษานายธนณัฏฐ์ฯ ได้หลบหนีไม่มาขึ้นศาล ศาลแขวงพระนครเหนือจึงออกหมายจับลงวันที่ 14 พ.ย. 2559